ห่วงโซ่อุปทาน -ศก.ดิจิทัล-พลังงานสะอาด เทรนด์ธุรกิจทุนสหรัฐสนใจไทย

ห่วงโซ่อุปทาน -ศก.ดิจิทัล-พลังงานสะอาด      เทรนด์ธุรกิจทุนสหรัฐสนใจไทย

ปี 2566สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้รับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่า 12.69 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนถึง 47%

 ข้อมูลนี้คือสัญญาณเม็ดเงินมหาศาลที่จะเข้ามาสู่เศรษฐกิจไทยและไหลลงสู่กระเป๋าประชาชนคนไทยซึ่งหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพคือสหรัฐ 

หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (The American Chamber of Commerce in Thailand: AMCHAM) สมาชิกนักธุรกิจกว่า3,000คน มีมูลค่าการลงทุนรวม78,000ล้านดอลลาร์ และสร้างงานในประเทศไทยรวมกว่า500,000คน  ในโอกาสที่AMCHAMจัดการประชุมด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทย-สหรัฐ 2024  หรือThe Thailand - U.S. Trade and Investment Conference 2024 เมื่อเร็วๆนี้ 

เศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษด้วยการได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและประเทศไทย โดยระบุว่าประเทศไทยเปิดรับและพร้อมเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือให้กับสหรัฐ โดยรัฐบาลชุดนี้มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมกับสหรัฐ ทั้งในระดับทวิภาคีและกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งไทยได้นำแนวคิด “Five to Thrive” ซึ่ง AMCHAM แนะนำมาพิจารณา และมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาล

      "ความที่ตั้งใจออกไปยังนานาประเทศตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเพื่อบอกให้รู้ว่า “ประเทศไทยเปิดพร้อมรับการลงทุน และไม่มีเวลาไหนดีไปกว่านี้ที่จะลงทุนในไทย” 

ความร่วมมือกับผู้ประกอบการทั่วโลกทำให้รัฐบาลมีความก้าวหน้าในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงการสนับสนุนการทำธุรกิจ (ease-of-doing-business) ผ่านการทบทวนกฎหมาย เปลี่ยนสู่รัฐบาลดิจิทัล และกระบวนการที่ไร้รอยต่อ (streamlined processes) เช่น BOI ขยายเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate income tax : CIT) ออกไปอีก 3- 5 ปี สำหรับ 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ได้แก่ อุตสาหกรรมสีเขียว ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค

ห่วงโซ่อุปทาน -ศก.ดิจิทัล-พลังงานสะอาด      เทรนด์ธุรกิจทุนสหรัฐสนใจไทย

 

คำถามสำคัญคือ บทต่อไปของความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร?  คำตอบคือภาพความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มองไปสู่อนาคต ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ กล่าวถึง วิสัยทัศน์ Ignite Thailand เพื่อเชื่อมโยงกับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐ

สำหรับวิสัยทัศน์ Ignite Thailand วางแผนงานประเทศในการเป็นศูนย์กลางใน 8 ภาคส่วนหลัก การท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพเกษตรกรรมและอาหาร การบิน โลจิสติกส์ ยานยนต์แห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล และการเงิน

 ด้านผู้นำของทั้งสามหอการค้า ได้แก่ ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย หอการค้าไทย หอการค้าสหรัฐ ได้ร่วมกันเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและสหรัฐ เพราะประเทศไทยและสหรัฐ มีเรื่องราวความสัมพันธ์และความร่วมมือใกล้ชิดมาอย่างยาวนาน หากจะกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจสามารถมองย้อนกลับได้ไปถึงปี 1833 ด้วยสนธิสัญญามิตรภาพ (Treaty of Amity) และความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหมุดหมายที่ทั้งสองประเทศยึดมั่นซี่งแสดงความร่วมมือที่ยั่งยืนของเราทั้งสองประเทศ

ในช่วงปี 2566 ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐ และไทยได้รับความสนใจมากขึ้น โดยรัฐบาลทั้งสองประเทศได้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโอกาสให้ นายกรัฐมนตรีเศรษฐาได้พบปะกับผู้นำธุรกิจสหรัฐ หลังจากการประชุมผู้นำ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC ที่ซานฟรานซิสโก เพื่อดึงดูดความสนใจใหม่ในการลงทุนในประเทศไทยจากบริษัทสหรัฐ ทั้งในด้านเทคโนโลยี การผลิตขั้นสูง และการดูแลสุขภาพ 

นอกจากนี้ ในเดือนมี.ค. ปีที่ผ่านมา คณะของสภาการส่งออกของประธานาธิบดีสหรัฐฯ (President’s Export Council) เดินทางมาที่ประเทศไทย เพื่อสำรวจโอกาสในการเป็นพันธมิตรกับไทย ในมิติต่าง ๆ ทั้งความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน (supply chain resiliency) เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงานสะอาด

“จากแรงผลักดันที่เกิดจากการเยือนครั้งนั้น การประชุมด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทย-สหรัฐ 2024 จึงเกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะนำเสนอโอกาสในการลงทุนและเสนอคำแนะนำเชิงนโยบายที่ปฏิบัติได้จริง เพื่อความร่วมมือในอนาคตต่อไป”

ภายในงานจากเวทีเสวนา Cheniere Energy, Energy Absolute, Chevron และ Honeywell  ได้ให้ข้อมูลเชิงลึก โดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาตำแหน่งของประเทศไทยบนเวทีโลกในยุคพลังงานใหม่ และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ นวัตกรรม และความร่วมมือ ทั้งหมดได้อภิปรายถึงบทบาทของบริษัทสหรัฐ ในการบรรลุเป้าหมายพลังงานร่วมกัน

การประชุมครั้งนี้ได้ยืนยันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและสหรัฐ และวางรากฐานสำหรับความร่วมมือและการลงทุนในอนาคต