‘พิชัย’ ลุยฟื้นเชื่อมั่นตลาดหุ้น เคลียร์กลุ่ม 'ปั่นราคา' ดึงรายใหม่ลงทุน
“หุ้นไทย” ทำสถิติต่ำสุดเกือบ 4 ปี ร่วงหนักเกือบ 20 จุด “พิชัย” หนุนตั้งกองทุนลงทุนหุ้นระยะยาว จัดการกลุ่มคนพฤติกรรมไม่ดีในตลาดหุ้น หวังเพิ่มความเชื่อมั่นดึงนักลงทุนรายใหม่เข้ามา
บรรยากาศการลงทุนใน “ตลาดหุ้นไทย” วันที่ 10 มิ.ย.2567 ดัชนี SET INDEX ปรับตัวลงแรงตั้งแต่เปิดตลาดช่วงเช้าทันที โดยดัชนี “ทำจุดต่ำสุด” ของวัน (New Low) อยู่ที่ 1,313.26 จุด ถือเป็นการหลุดจุดต่ำสุดเดิมและทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี ก่อนดัชนีเคลื่อนไหวมาปิดตลาดที่ 1,318.57 จุด ลดลง 14.17 จุด หรือ 1.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38,324.69 ล้านบาท
ด้วยสารพัดปัจจัย “กดดัน” ถาโถมเข้ามาโดยเฉพาะปัจจัยลบในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมืองที่ส่อเค้าความวุ่นวายกลับมาอีกครั้ง ทั้งกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญประชุมคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 12 มิ.ย.2567 ขณะที่ 18 มิ.ย.2567 อัยการจะนำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งฟ้องศาลฯ คดี ม.112 ซึ่งนักลงทุนยังคงจับตารอดูถึงความชัดเจน
ส่วนประเด็นในระยะกลาง-ยาว ตลาดทุนให้น้ำหนักประเด็น “ฟื้นความเชื่อมั่น” หลังจากสัญญาณเศรษฐกิจในประเทศเริ่มมีทิศทางทยอยฟื้นตัว ขณะที่ประเด็นต่างประเทศยังจับทิศทางถ้อยแถลงนโยบายดอกเบี้ยของ “ธนาคารกลางสหรัฐ” (เฟด) และตัวเลข “เงินเฟ้อ” ถ้าออกมาเป็นเชิงลบมีโอกาสกดดันดัชนีหุ้นไทยต่ออีก
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาณ์ประเด็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงมากว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จะมีการดูว่าเป็น Sector ไหน โดยหากดูระยะเวลาการลงทุนก็มีการปรับตัวขึ้นและลง
“หุ้นเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่น Trust & Confident จะต้องจัดการกับคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพื่อจะให้คนใหม่เข้ามาลงทุน ซึ่งต้องขอเวลาในการทำงานตรงนี้ต่อไป”
ส่วนความคืบหน้าการตั้งกองทุนระยะยาวเพื่อสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ นายพิชัย กล่าวว่า แนวทางของรัฐบาลสนับสนุนการตั้งกองทุนเพื่อลงทุนหุ้นระยะยาว โดยจะมีการตั้งกองทุนขึ้นใหม่แน่นอน แต่ต้องดูว่าจะให้ประชาชนลงทุนอะไร ซึ่งต้องการให้ประชาชนลงทุนในหุ้นตัวที่ดี และตัวที่ดีลงทุนแล้วจะเป็นเงินออมของประชาชน
“การตั้งขึ้นมาใหม่ไม่ใช่หุ้นประเภทไหนก็ได้เพื่อให้เป็นเงินออมจริงๆ ส่วนระยะจะเท่าไรวงเงินจะเป็นเท่าไรเรื่องนี้ได้มีการหารือกันแล้ว และให้ตลาดทุนทำงานร่วมกับกรมสรรพากร เพื่อให้กำหนดว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) จะมาหารือร่วมกัน และจะมีกองทุนอื่นๆ ที่รัฐบาลพยายามจะดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเติมด้วย" นายพิชัย กล่าว