"ส.อ.ท." เผยยอดผลิตรถยนต์ พ.ค.2567 รวม 1.2 แสนคัน ลดลง 16.19% จ่อลดเป้าทั้งปี
"ส.อ.ท." เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนพ.ค.2567 รวม 126,161 คัน ลดลง 16.19% ยอดขายลดลง 23.38% ส่วนยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 3.39% ขณะที่ยอดผลิตรถอีวีรวม 865 คัน เพิ่มขึ้น 7,763.64% หวังนโยบายรัฐ - งบประมาณ 67 - 68 ครึ่งปีหลัง กระตุ้นกำลังซื้อ ก่อนเคาะเป้าผลิตทั้งปีอีกครั้งในเดือนหน้า
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 126,161 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 16.19 ลดลงจากการผลิตรถกระบะขายในประเทศลดลงร้อยละ 54.66 และผลิตรถยนต์นั่งขายในประเทศลดลงร้อยละ 14.35 ตามยอดขายในประเทศที่ลดลงจากเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำ และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่พร้อมเต็มที่ แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2567 ร้อยละ 20.54
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 644,951 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 16.88
ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกเดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 88,808 คัน เท่ากับร้อยละ 70.39 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 1 ส่วนเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 434,416 คัน เท่ากับร้อยละ 67.36 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 2.54
และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 37,353 คัน เท่ากับร้อยละ 29.61 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 38.57 และเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 210,525 คัน เท่ากับร้อยละ 32.64 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 36.23
นายสุรพงษ์ กล่วว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,871 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2567 ร้อยละ 6.70 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 23.38 เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในอัตราต่ำจากการล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันมากกว่า 10 เดือน โรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลง และมีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ขาดรายได้
ทั้งนี้ ประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่ายเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้รวมทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทาง และพลังงานมีราคาสูงขึ้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และปี 2568 ที่กำลังพิจารณาในสภาฯ แต่เศรษฐกิจจะขยายตัวถึงร้อยละ 3 หรือไม่ ยังน่ากังวลถ้ายอดผลิตรถยนต์ และขายรถยนต์ และขายอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เพราะทั้งสองอุตสาหกรรมมีอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และแรงงานมากซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมาก
ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 260,365 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 23.80
การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป เดือนพฤษภาคม 2567 ส่งออกได้ 89,284 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 27.26 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 3.39 เพิ่มขึ้นทั้งที่ผลิตเพื่อส่งออกลดลง เพราะมีรถยนต์ที่ยังไม่ได้ส่งออกเดือนที่แล้วมาส่งออกเดือนนี้ จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตลาดออสเตรเลีย ตลาด ตะวันออกกลาง ตลาดอเมริกาเหนือ ตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 63,073.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 14.74 รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 83,754.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 12.93
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,166 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้วร้อยละ 14.50 โดยเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 43,921 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม ปีที่แล้วร้อยละ 31.64
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนพฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 10,789 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 34.64 เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 59,317 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม ปีที่แล้วร้อยละ 53.48
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนพฤษภาคม 2567 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 704 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 31.32
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567มีจำนวนทั้งสิ้น 175,316 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 168.34
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์