สหรัฐยก ‘ไทย’ ประเทศสำคัญอาเซียน มีบทบาทต่อความมั่นคงเศรษฐกิจสหรัฐ

สหรัฐยก ‘ไทย’ ประเทศสำคัญอาเซียน มีบทบาทต่อความมั่นคงเศรษฐกิจสหรัฐ

โฆษกฯ เผยจากรายงานของสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาพบว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญไทยในฐานะประเทศที่มีบทบาทต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และนโยบายของรัฐบาลในการดึงดูดการค้าและการลงทุน แนะสร้างนิเวศน์เอื้อลงทุน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (The President’s Export Council: PEC) ซึ่งร่วมกับคณะของนางจีนา เอ็ม. เรมอนโด (The Honorable Gina M. Raimondo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13-15 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริมโอกาสขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ได้เผยแพร่รายงานสรุปภาพรวมการเดินทางเยือนไทย 

 

โดยชื่นชมการต้อนรับที่อบอุ่นจากไทย ความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานและใกล้ชิดระหว่างไทยและสหรัฐฯ รวมถึงความสัมพันธ์ในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ และศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐฯ

 

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า รายงานของสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในหัวข้อ “REPORT OF THE PRESIDENT’S EXPORT COUNCIL: Reflections on Commercial Engagement in the Indo-Pacific and Recommendations for Strengthening the U.S.-Thailand Commercial Relationship” ได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 บนเว็บไซต์ของ International Trade Administration (ITA) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมและผลักดันการค้าและการลงทุน รวมไปถึงภาคการส่งออกของสหรัฐฯ ดังกล่าวได้สรุปภาพรวมการเดินทางเยือนไทย ชื่นชมการต้อนรับจากไทย

รวมทั้งระบุการพบหารือที่เป็นประโยชน์กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานของไทย ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนการค้าไทย รวมถึงการพบปะภาคเอกชนของสหรัฐฯ ในไทย ซึ่งตลอดการเดินทางเยือนไทยได้รับทราบนโยบายของรัฐบาล รวมถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโอกาสทางการค้าและการลงทุนในไทยเป็นอย่างดี

รายงานของสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (PEC) ยังกล่าวถึง ความสำคัญของไทยในฐานะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สำคัญกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 18 ของสหรัฐฯ และมูลค่าการค้าของทั้งสองฝ่ายในปี 2566 รวมประมาณ 7.21 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ มูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ยังช่วยสร้างงานในสหรัฐฯ นับหมื่นตำแหน่ง นอกจากนี้ รายงานของ PEC ยังให้ความสำคัญกับนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งเน้นย้ำว่า “ประเทศไทยเปิดแล้ว” โดยมีนโยบายที่มุ่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งภายหลังดำรงตำแหน่งได้เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาถึงสองครั้ง และพบปะกับภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำหลากหลายบริษัท เพื่อส่งเสริมและนำเสนอโอกาสการลงทุนในประเทศไทย

 

“รายงานของสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (PEC) สะท้อนถึงความสำคัญของประเทศไทยที่ยังคงเป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

พร้อมยังรับรู้ถึงความพยายามของนายกรัฐมนตรีที่พร้อมกระชับความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-สหรัฐฯ ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ผ่านการเดินทางเยือนสหรัฐฯ และพบหารือหลากหลายภาคส่วน เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพและโอกาสในการค้าและการลงทุนร่วมกัน รวมถึงเพื่อดึงดูดการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพ นำผลประโยชน์มาสู่ประชาชนชาวไทย” นายชัย กล่าว