สต็อกน้ำมันดิบลดเกินคาด ดันราคา WTI พุ่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด รวมทั้งปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
ในวันพุธ (17 ก.ค.) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.59% ปิดที่ 82.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.61% ปิดที่ 85.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 30,000 บาร์เรล และมากกว่าที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาด โดยทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.5% แตะที่ระดับ 103.747
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดได้ช่วยบดบังปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนขยายตัวเพียง 4.7% ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.1% และชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/2567 ที่มีการขยายตัว 5.3%