SKY ICT จับมือ 4 พันธมิตร ส่ง Sawasdee by AOT ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์

SKY ICT จับมือ 4 พันธมิตร ส่ง Sawasdee by AOT ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์

SKY ICT ส่งแอปพลิเคชัน Sawasdee by AOT อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์และผู้โดยสารทั่วไป ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการจัดงานประชุมเชิงธุรกิจและเทศกาลนานาชาติ

บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลชั้นนำ ได้นำเสนอแอปพลิเคชัน "Sawasdee by AOT" เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์และผู้เดินทางในสนามบิน เป็นการสนับสนุนความร่วมมือของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ และหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กรมการกงสุล, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับการจัดงานธุรกิจและเทศกาลนานาชาติ รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต

SKY ICT จับมือ 4 พันธมิตร ส่ง Sawasdee by AOT ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลชั้นนำ กล่าวว่า SKY ICT มีความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทาง SKY ICT จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอแอปพลิเคชัน Sawasdee by AOT โดยแอปพลิเคชันนี้จะช่วยให้การเดินทางมีความราบรื่น และช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในสนามบิน โดยภายในแอปฯ จะรวบรวมข้อมูลและสถานะของเที่ยวบินต่างๆ ทั้งขาเข้าและออกไว้ให้ในที่เดียว ด้วยหน้าจอที่สามารถแสดงข้อมูลรายละเอียดสำคัญทั้งหมดของเที่ยวบินนั้น เช่น สายการบิน อาคารสนามบิน หมายเลขประตูขึ้นเครื่องบิน เวลาเดินทาง จุดหมายปลายทาง และสามารถนำทางไปยังสถานที่เช็กอิน หรือไปยัง Gate ได้ทันเวลา โดยที่ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ Flight บินตลอด เพราะในแอปพลิเคชันจะอัปเดตข้อมูลแบบ Real-Time เพียงแค่มีมือถือเครื่องเดียว คุณก็จะไม่เสียเวลามานั่งเฝ้า แถมเดินเล่นรอก่อนได้แบบไม่เสียเวลา

นางสาวสาธิมา โล่ห์วัชรสันติ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ สายงานนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ผู้ร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน Sawasdee by AOT บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แอปฯ Sawasdee by AOT จะสามารถตอบโจทย์ได้ 3 ด้าน อาทิ 1.) Digital Airport Experiences ยกระดับประสบการณ์ภายในสนามบิน ครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 2.) Digital Lifestyle ยกระดับบริการด้านการใช้จ่ายและสิทธิพิเศษ และ 3.) Digital Travel Safety ยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว ทั้งหมดนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสาร นอกจากฟีเจอร์ต่างๆ นี้แล้ว ยังมีไฟล์บอร์ดที่จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง Gate หรือ Final Call รวมไปถึงดีลร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในสนามบิน ไฮไลต์บริการที่สำคัญคือบริการ Airport Premium Service ผู้ช่วยในสนามบินรวมทั้งบริการ Buggy ด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารทั้งขาเข้าและออกประทับใจในทุกมุมมองในทุกบริการ

SAWASDEE by AOT แอปพลิเคชันเดียว ที่รองรับสูงสุดได้ 8 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน และรัสเซีย ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกครบทุกบริการ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ อาทิ เดินทางสะดวกสบายทุกสนามบิน สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ อย่าง 1.) Premium Service บริการผู้ช่วยส่วนตัวระดับพรีเมียม คอยดูแลคุณตั้งแต่ขาเข้าจนถึงขาออก ช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวก รวดเร็ว และราบรื่น 2.) Real-time Flight Board ตรวจสอบข้อมูลเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการเช็กอิน สถานะเที่ยวบิน ประตูขึ้นเครื่อง และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 3.) Flight Notification มีการรับแจ้งเตือนสำคัญเกี่ยวกับเที่ยวบินของตนเอง เช่น การเปลี่ยนแปลงเวลาบิน ประตูขึ้นเครื่อง ประกาศสำคัญ และอื่นๆ และ 4.) Privileges สิทธิพิเศษมากมาย มอบส่วนลดสูงสุดถึง 50% สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ภายในสนามบิน ฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น จองที่จอดรถ สั่งอาหารล่วงหน้า ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี แปลภาษา และอื่นๆ

นายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กรมการกงสุลพร้อมอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าให้ผู้เข้าร่วมและผู้จัดงานไมซ์ โดยจะขยายการเปิดให้บริการระบบ e-Visa ให้ครบทุกสถานทูต สถานกงสุลไทยภายในปลายปี 2567 รวมทั้งกำหนดมาตรการและแนวทางการตรวจลงตราใหม่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนเชื่อมั่นว่ามาตรการต่างๆ ดังกล่าวจะสามารถรองรับและอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางไมซ์ในการเข้าประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่ง ที่นี่ถือเป็นประตูบานแรกที่จะให้การต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกเข้ามายังประเทศไทย พร้อมอำนวยความสะดวกและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนภารกิจในการต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ รวมถึงการจัดงานในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ให้เติบโต เพื่อร่วมมือกันดึงดูดให้มีการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมต่อไป

พล.ต.ต. เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยมี 3 มาตรการหลัก คือ 1.) มาตรการการยกเว้นวีซ่าและขยายระยะเวลาการพำนักตามนโยบายรัฐบาล โดยมีการกำหนดสัญชาติที่ได้รับยกเว้นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวหรือทำงาน/ติดต่อธุรกิจระยะสั้น 60 วัน โดยสามารถขออยู่ต่อได้อีก 30 วัน ซึ่งเป็นการประกาศให้ประเทศที่ได้รับสิทธิเดิม และเพิ่มประเทศที่ได้รับสิทธิใหม่ด้วย โดยจะประกาศใช้วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 นี้ 2.) มาตรการการคัดกรองโดยใช้เทคโนโลยี อำนวยความสะดวกภายใต้หลักความมั่นคง ได้แก่ ระบบคัดกรองล่วงหน้า APPS ที่สามารถตรวจสอบคัดกรองล่วงหน้าจากประเทศต้นทางว่าผู้โดยสารมีข้อมูลหมายจับหรือบุคคลเฝ้าระวัง และเป็นบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ หรือไม่ การพัฒนาช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติรองรับคนไทยและคนต่างชาติในกลุ่ม E-passport ในอนาคต เป็นต้น และ 3.) มาตรการด้านการบริหารจัดการเพิ่มกำลังพลเต็มทุกช่องตรวจในช่วงเวลาที่ผู้โดยสารเดินทางหนาแน่น 

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ได้ที่ App Store และ Google Play 

SKY ICT จับมือ 4 พันธมิตร ส่ง Sawasdee by AOT ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์