รอพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ระวังนิวเคลียร์การค้าทรัมป์

รอพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ระวังนิวเคลียร์การค้าทรัมป์

ในขณะที่ไทยจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐก็ใกล้เข้ามา หาก ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีรอบนี้ จะสร้างความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญชี้ ไทยต้องระวัง!

เรื่องเงินใครๆ ก็อยากได้ เห็นได้จากการตกเป็นข่าวฮือฮาทุกครั้งสำหรับโครงการเงินดิจิทัล หรือชื่อจริง “โครงการแจกเงินดิจิทัล ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” วานนี้ (24 ก.ค.) มีการแถลงข่าวใหญ่ “ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้” นำทัพโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

หลักการของรองฯ พิชัยคือเศรษฐกิจมีปัญหา ครัวเรือนมีหนี้สิน เพราะรายได้ไม่พอก็เลยหนี้เยอะ ธุรกิจผลิตสินค้าแล้วขายไม่ออก ยอดขายตกต่ำ ก็ในเมื่อคนมีหนี้เยอะแล้วจะมีเงินที่ไหนไปซื้อสินค้า

หันไปดูโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยก็มีปัญหา ทำให้เราไม่มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่น ยอดการส่งออกลดลง เรียกได้ว่าไม่ว่าจะพิจารณาในระดับใดตั้งแต่ปัจเจกบุคคล ครัวเรือน ธุรกิจ โครงสร้างเศรษฐกิจประเทศ ย่ำแย่ไปหมดจึงพากันทรุดฮวบๆ ไร้ทางออก 

“ดังนั้นการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเป็นสิ่งจำเป็นต้องแก้วิกฤติควบคู่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” รองฯ พิชัยท่านว่าไว้อย่างนั้น

ด้วยการทำให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋า เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 ลูก คือ ระหว่างร้านค้าขนาดเล็กกับประชาชน ร้านค้าเล็กกับร้านค้าใหญ่ ร้านค้าขนาดใหญ่กับร้านค้าขนาดใหญ่ และพลังการใช้จ่ายของประชาชนแต่ละคนจะเกิดผลต่อการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นทวีคูณ ช่วยฟื้นฟูภาคการผลิตของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม

ได้ยินรองนายกฯ พูดอย่างนี้ชวนให้คิดถึงโฆษณาแบงก์ใหญ่เมื่อราว 20 ปีก่อน “เงินกำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไปให้ชุมชน” หลักคิดเดียวกันกับพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 ลูก แต่ดูเหมือนศิริกัญญาตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยังห่วงว่าหลังพายุหมุนเศรษฐกิจจะเติบโตได้มากแค่ไหน

ระหว่างที่กำลังถกเถียงเรื่องพายุหมุนกันอยู่นี้มีอีกเรื่องชวนให้คิดซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัว ในช่วงที่คนไทยกระเป๋าแห้งปฏิเสธไม่ได้ว่าภูมิรัฐศาสตร์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อกระเป๋าเงินคนทั้งโลก การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเดือน พ.ย. ใครจะมาใครจะไป ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกแน่นอน 

ฝ่ายพรรครีพับลิกันชัดเจนแล้วว่าได้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ ส.ว.เจดี แวนซ์ เป็นตัวแทนพรรค สองคนนี้เข้ากันเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกในเรื่องต่อกรจีน ซึ่งทรัมป์ได้ประกาศแล้วว่า ถ้าได้กลับมานั่งในทำเนียบขาวจะเก็บภาษีสินค้าจีนอย่างน้อย 60%

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า สิ่งที่ทรัมป์จะทำกับจีนนั้นเปรียบเสมือน “นิวเคลียร์” ในความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ จึงขอฝากผู้กำหนดนโยบายของไทยอย่าเถียงกันมากเรื่องพายุจะหมุนหรือไม่หมุน เพราะนิวเคลียร์ทรัมป์กำลังจะมา รับมือไม่ดีเกรงว่าจะตายกันหมด