จากทางรัฐ สู่ 'Super App' 3 ปี DGA มุ่งพัฒนาแอปฯตอบโจทย์มากกว่าดิจิทัลวอลเล็ต
เปิดเส้นทาง 3 ปีพัฒนาแอปทางรัฐ DGA มุ่งพัฒนา Super App ตอบโจทย์บริการภาครัฐ 24 ชั่วโมงครอบคลุมบริการหลายด้าน ปัจจุบันครอบคลุมแล้ว152 บริการ โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯปลื้มยอดใช้งาน และดาวน์โหลดพุ่ง เปิดสายด่วนดิจิทัลวอลเล็ตตอบคำถามประชาชน Digital Wallet 1111 ตอบคำถาม 24 ชั่วโมง
เป็นแอปพลิเคชั่นที่มียอดดาวน์โหลดสูงและมีการใช้งานเพิ่มขึ้นมากมาตั้งแต่ต้นปีสำหรับ “แอปฯทางรัฐ” เนื่องจากรัฐบาลได้เชิญชวนให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปฯนี้ไว้ใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ในกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลจะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยการลงทะเบียนของประชาชนที่มีสมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 15 ก.ย.2567
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการแถลงรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ โครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ที่กำหนดให้ประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567
ทำให้ยอดการสมัครเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐ ของประชาชน เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากเดิม(ก่อนวันที่ 24 กรกฎาคม 2567) มีจำนวนการใช้งานเฉลี่ยวันละ 50,000-60,000 ครั้ง ขณะที่ปัจจุบัน (ภายหลังวันที่ 24 กรกฎาคม 2567) พบว่ามีจำนวนการสมัครเข้าใช้งานเฉลี่ยถึงวันละ 800,000 – 900,000 ครั้ง ซึ่งมากกว่ายอดการสมัครใช้เดิมกว่า 10 เท่า
ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลข่าวสารโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 (24 ชม.) โดยรัฐบาล โดยกระทรวง DE เตรียมเจ้าหน้าที่รองรับการทำงานของระบบไว้กว่า 500 คน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก แก้ไขปัญหา ตอบข้อสงสัย เรื่องการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับประชาชน ส่วนการดาวน์โหลดแอปฯ ทางรัฐ ให้ผ่านช่องทาง Google Play หรือ App Store เท่านั้น
จาก "ทางรัฐ" สู่เป้าหมาย "Super App"
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ “DGA” ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แอปฯทางรัฐมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายไม่ได้จำกัดแค่เรื่องการใช้งานในโครงการดิจิทวอลเล็ตเท่านั้นแต่เป้าหมายในการพัฒนาแอปฯทางรัฐนั้นมีเป้าหมายในการสร้าง “Super App” ครอบคลุมการให้บริการประชาชนคนไทยทุกคนที่สามารถติดต่อขอรับบริการจากภาครัฐผ่านแอปฯนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดบแอปฯนี้จะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการประชาชนแบบครบวงจร เปรียบเสมือนแอปเดียวที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการในการติดต่อและรับบริการจากภาครัฐ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของหน่วยงานต่างๆ ให้วุ่นวาย ตามแนวความคิด “ทางลัดถึงรัฐ” ช่องทางเดียว ง่าย จบ ครบทุกช่วงวัย
ทางรัฐครอบคลุม 152 บริการภาครัฐ
โดยปัจจุบันแอปฯ ทางรัฐ มีบริการภาครัฐกว่า 152 บริการที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของประชาชน และตลอด 3 ปีที่ผ่านมา DGA เปิดเผยถึงไทม์ไลน์กว่าจะมาเป็นแอปฯ “ทางรัฐ” ว่า DGA ได้เริ่มต้น ศึกษา พัฒนา ปรับปรุงแอปทางรัฐต่อเนื่อง ซึ่งไม่เคยหยุดพัฒนาแอปฯทางรัฐเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายการเป็น Super App ของประชาชนคนไทยให้ได้ในอนาคต
เปิดไทม์ไลน์ 3 ปีพัฒนาแอปฯ “ทางรัฐ”
ปี 2564: จากจุดเริ่มต้นแอปทางฯรัฐที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2564 การเปิดตัวแอปฯทางรัฐในปีนั้นมีการเปิดบริการประชาชน 30 บริการ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชน ตอบโจทย์ทุกช่วงวัยในแอปฯเดียว เช่น การให้บริการตรอบสอบยอดเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด การบริการขอหนังสือรับรองผลสอบ o-net บริการเช็กสิทธิ์ประกันสังคม และบริการเช็กสิทธิ์รักษาพยาบาล ต่อมาในปี 2564 มีการเพิ่มการให้บริการเป็น 45 บริการ เช่น การเพิ่มบริการตรวจสอบเครดิตบูโรฉบับย่อฟรี เพิ่มบริการการตรวจสอบยอดเงินสะสม และเงินสมทบ ของกอง กบข.และเพิ่มบริการสิทธิประโยชน์ของ อสม.เป็นต้น
ในปี 2565 แอปทางรัฐฯขยายบริการเพิ่มขึ้นเป็น 81 บริการ โดยเพิ่มช่องทางการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ในการเข้าใช้งานแอปฯ ผ่านตู้บุญเติม ไปรษณีย์ไทย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส รวมทั้งเชื่อมโยงบริการใหม่ เช่น การตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถ ข้อมูลใบอนุญาตขับรถ และชำระค่าปรับใบสั่งจราจร
ในปี 2566 ถือเป็นปีที่มีการพัฒนาเพิ่มเติมในแอปฯทางรัฐเพื่อให้บริการประชาชน โดยมีการบริการภาครัฐที่ประชาชนเข้าถึงได้ 139 บริการในปีดังกล่าว เช่น การเพิ่มช่องทางยืนยันตัวตนในการเข้าใช้งานแอปทางรัฐผ่านแอป ThaiID เพิ่มบริการการขอหลักฐานแสดงตนกำลังพลกองทัพบก และเพิ่มบริการขอคัดสำเนาคำพิพากษาและคำสั่งชี้ขาดคดีศาลปกครอง
สำหรับเป้าหมายต่อไป (Next Step) ของการพัฒนาแอปฯทางรัฐ DGA ได้วางเป้าหมายว่าจะพัฒนาให้แอปฯนี้เป็น Super App ที่ประชาชนทุกช่วงวัยสามารถใช้ประโยชน์ในการติดต่อรับบริการจากภาครัฐผ่านช่องทางออนไลน์ในระบบของแอปฯนี้ที่เดียวได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง