ทอท.ยอมสูญรายได้ ยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า 5 สนามบิน เริ่ม 1 ส.ค.นี้

ทอท.ยอมสูญรายได้ ยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า 5 สนามบิน เริ่ม 1 ส.ค.นี้

ทอท. ยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า 5 สนามบิน เริ่ม 1 ส.ค.นี้ เรียกคืนพื้นที่ “คิงเพาเวอร์” รวมกว่า 2,250 ตารางเมตร คาดสูญเดือนละกว่า 143 ล้านบาท

รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้พิจารณาอนุมัติหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของผู้ประกอบการ ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 ที่ประชุมได้มีมติรับทราบแนวทางการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของผู้ประกอบการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงเงินใช้จ่ายในร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าว มากระจายหมุนเวียนในประเทศให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในภาพรวมได้มากยิ่งขึ้น โดยกรมศุลกากร (กศก.) ได้มีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) และ ทอท.ในการดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าวข้างต้น ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2567 เป็นต้นไป 

อย่างไรก็ดี KPD ได้มีหนังสือถึง กศก. แจ้งยินดีที่จะให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งมีหนังสือถึง ทอท. แจ้งการหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้า ในพื้นที่ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 เป็นต้นไป ประกอบด้วย 

- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จำนวนพื้นที่ประมาณ 1,870.69 ตารางเมตร

- ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จำนวนพื้นที่ประมาณ 162.46 ตารางเมตร

- ท่าอากาศยานภูมิภาค ประกอบด้วย ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จำนวนพื้นที่รวมประมาณ 217.45 ตารางเมตร 

ทั้งนี้ จากมติที่ประชุมบอร์ด ทอท. เป็นผลให้ ทอท.ต้องรับคืนพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าวจาก KPD จำนวนพื้นที่โดยรวมประมาณ 2,250.60 ตารางเมตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 เป็นต้นไป อีกทั้ง การหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของ KPD ดังกล่าวข้างต้นมีผลทำให้พื้นที่ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรของ KPD ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.เปลี่ยนแปลงลดลง

ซึ่งตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรระหว่าง ทอท. กับ KPD ได้กำหนดไว้ว่า ในกรณีพื้นที่ประกอบกิจการตามสัญญามีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คิดค่าผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามจำนวนพื้นที่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง แล้วแต่กรณี 

ดังนั้นในกรณีนี้จะทำให้ ทอท.มีรายได้ลดลงเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 143.32 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากค่าเช่าพื้นที่ ณ ทสภ., ทภก., ทชม., ทหญ. และ ทดม. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 1.70 ล้านบาท และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนในช่วงปีสัญญา 2567 – 2568 ณ ทสภ. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 126.25 ล้านบาท ณ ทภก., ทชม. และ ทหญ. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 8.41 ล้านบาทและ ณ ทดม. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 6.96 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทอท.มีโครงการที่จะเพิ่มรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อ