สถิตย์ ไม่ห่วงการเมืองแทรกแซงเลือก 'ประธานบอร์ดธปท.' ยึดคุณสมบัติ-ข้อกม.

สถิตย์ ไม่ห่วงการเมืองแทรกแซงเลือก 'ประธานบอร์ดธปท.' ยึดคุณสมบัติ-ข้อกม.

"สถิตย์" เผยประชุมบอร์ดสรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ 23 ส.ค.นี้ ชี้ไม่กังวลการเมืองแทรกแซง ระบุข้อกฎหมาย คุณสมบัติชัดเจน ชี้ต้องเชี่ยวชาญเศรษฐกิจ มีความรู้การลงทุนต่างประเทศ ระบุคลัง แบงก์ชาติ เสนอรายชื่อได้ตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด

ความคืบหน้าในการการสรรหาผู้ที่เหมาะสมมานั่งในตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 11 ก.ย.ที่จะถึงล่าสุดกระทรวงการคลังได้ตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน จากอดีตข้าราชการระดับสูง ในระดับปลัดกระทรวง และอดีตเลขาธิการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านกฎหมายและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของ ธปท.

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการในคณะกรรมการสรรหาประธานบอร์ด ธปท.ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเปิดเผยว่ากระทรวงการคลังและกรรมการทั้ง 7 คนได้นัดประชุมครั้งแรกในวันที่ 23 ส.ค.นี้ที่กระทรวงการคลัง

โดยการคัดเลือกครั้งนี้มีการตั้งกรรมการสรรหาซึ่งเป็นการแก้ไขกรอบกฎหมายในการได้มาซึ่งประธานบอร์ด ธปท.ที่ได้แก้ไขให้มีการเสนอชื่อของผู้ที่เหมาะสมทั้งจากฝั่งของกระทรวงการคลัง และธปท.ซึ่งมีการแก้ไขในสมัยของมรว.ปรีดียาธร เทวกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรี จากเดิมที่ตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท.จะมีการเสนอชื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโดยตรงจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ในกรอบระยะเวลาในการสรรหาประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่นายสถิตย์กล่าวว่าคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน น่าจะทันภายในวันที่ 11 ก.ย.เนื่องจากมีข้อกฎหมายและคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนี้ชัดเจน และในเรื่องเหล่านี้เราก็ต้องคุยกันตั้งแต่การประชุมครั้งแรก

“ผมคิดว่าใช้เวลาไม่นาน คิดว่าต้องกระชับ ในการประชุมครั้งแรกก็ต้องคุยในเรื่องนี้ว่าคุณสมับัติของผู้ที่จะเสนอเข้ามาเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติจะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างเพื่อที่จะแจ้งไปยังกระทรวงการคลัง และแบงก์ชาติให้ทราบเพราะทั้งสองที่จะต้องเสนอคนที่จะเข้ามาเป็นประธานกรรมการตามสัดส่วน ซึ่งหากจำไม่ผิดสัดส่วนที่จะเสนอเข้ามาคือกระทรวงการคลัง 1 ส่วนและแบงก์ชาติ 2 ส่วน ซึ่งในรายละเอียดพวกนี้ก็จะต้องคุยกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งก็มีอดีตเลขาฯกฤษฎีกาอยู่ในกรรมการด้วย”

ไม่กังวลการเมืองแทรกแซง

เมื่อถามว่าในฐานะกรรมการที่จะต้องคัดเลือกประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่มีความกังวลเรื่องประเด็นทางการเมืองหรือไม่ เพราะสังคมกำลังกังวลเรื่องการแทรกแซง ธปท.ของรัฐบาลนายสถิตย์ระบุว่าเรื่องนี้ไม่น่ากังวลเพราะการคัดเลือกเป็นเรื่องตรงไปตรงมา เรื่องคุณสมบัติเป็นเรื่องที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องความเชี่ยวชาญนั้นกรรมการก็ต้องพิจารณาตามความรู้ความสามารถ คนที่จะมาเป็นประธานบอร์ด ธปท.ต้องมีความรู้ความเข้าใจ มีประสบการณ์เรื่องการบริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุน

นอกจากนี้ในสถานการณ์ปัจจุบันก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างประเทศด้วย

 

พรบ.ธปท.กำหนดคุณสมบัติประธานบอร์ดชัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กำหนดระเบียบว่าด้วยการประชุมของคณะกรรมการคัดเลือกเสนอชื่อ การพิจารถาและการคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28/2 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทยพุทธศักราช 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มแคทพระระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 คณะกรรมการคัดเลือกจึงได้กำหนดระเบียบว่าด้วยการประชุมของคณะกรรมการคัดเลือกการเสนอชื่อ การพิจารณา และการคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นใหม่ ดังต่อไปนี้     

ให้ประธานกรรมการคัดเลือกแจ้งให้ผู้ว่าการและปลัดกระทรวงการคลังเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ธปท. ต่อคณะกรรมการคัดเลือก ภายในเวลาที่ประธานกรรมการ คัดเลือกกำหนด โดยให้ผู้ว่าการเสนอเป็นจำนวนไม่เกินสองเท่าและปลัดกระทรวงการคลังเสนอเป็น จำนวนไม่เกินหนึ่งเท่าของจำนวนกรรมการที่จะได้รับแต่งตั้ง ตามลำดับ     

บุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อตามข้อ 14 ต้องมีสัญชาติไทย และมีอายุไม่กินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ รวมทั้งมีความรู้ความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์สำหรับการดำรงตำเเหน่งในคณะกรรมการ ธปท. ได้แก่ ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านการเงินการธนาคาร ด้านกฎหมาย ด้านบัญชีหรือด้านอื่นอันจะเป็นประโยชน์ต่อกิจการของ ธปท.

 

บุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อ ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(1) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(2) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

(3) เคยใด้รับไทยจำคุกโดยคำพิพากมาถึงที่สุดให้ข้าคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(4) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหตําแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

(5) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง เว้นแต่จะได้ฟันจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

(6) เป็นกรรมการหรือดำรงตำแหน่งใดในสถาบันการเงิน เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งเนื่องจากมีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ

(7) เป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือมีส่วมได้เสียอย่างมีนัยสำคัญในนิติบุคคล ซึ่งมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของ ธปท. ดังเช่น

(ก) นิติบุคคลที่เข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจ หรือกำลังจะเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับ ธปท. อันมีลักษณะที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ขัดเเย้งกับการปฏิบัติหน้าที่ของ ธปท.

(ข) นิติบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับหรือตรวจสอบของ ธปท. เว้นแต่เป็นการดำรงตำแหน่งเนื่องจากมีกฎกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ

(8) เป็นคู่สัญญาหรือเป็นผู้มีส่วนใต้เสียในสัญญาหรือกิจการของ ธปท.อันมีลักษณะที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ขัดแย้งกับการปฏิบัติหน้าที่ของ ธปท. โดยให้ไช้บังคับกับคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติกาวะของบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อด้วย