‘จุลพันธ์’ ยันเพื่อไทยทำต่อ เติมเงินหมื่นผ่าน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต‘
“จุลพันธ์” ยันเข็นโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตต่อ ย้ำเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย พบยอดลงทะเบียน “ทางรัฐ” แล้วกว่า 30 ล้านคน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงกระแสข่าวยกเลิกโครงการแจกดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า เป็นกระแสข่าวที่ยังไม่สามารถยืนยันแหล่งข่าวได้ อย่างไรก็ตามโครงการนี้ได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งการให้เดินหน้า ในฐานะผู้ดำเนินโครงการยืนยันว่ายังจะดำเนินการต่อตามกรอบอำนาจหน้าที่ ที่มีเท่าที่ รมช.ว่าการ จะสามารถดำเนินการได้
ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่าต้องให้เกียรติกับรัฐบาลใหม่ และนายกรัฐมนตรีท่านใหม่ ที่จะมีการโหวตในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.67)
โดยหลังจากมีการเลือกนายกฯ และมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับการโปรดเกล้าฯ ครบถ้วน ก็จะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ต้องดูกันว่าหลังจากการเจรจาหารือกับ ครม. นโยบายใดบ้างจะถูกบรรจุอยู่ในแนวนโยบายของรัฐบาล หลังจากนั้นจะได้เห็นความชัดเจนของโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
“ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเอง โครงการแจกเงิน 10,000 บาท เป็นนโยบายของพรรคนโยบายหนึ่ง หากพรรคเพื่อไทยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล แน่นอนว่าเราจะเสนอนโยบายนี้ไปอยู่ในการเจรจา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต้องรอความชัดเจนต่อไป ส่วนขั้นตอน ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งจาก ครม. เราก็มีหน้าที่เดินหน้าต่อตามภาระหน้าที่ ที่ได้รับการสั่งการมา”
ขณะที่การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จะไม่กระทบ เพราะขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎรพ้นจากฝ่ายบริหารไปแล้ว ดังนั้นในขั้นตอนของกรรมาธิการก็ยังอยู่ เมื่อพิจารณาเสร็จในชั้นกรรมาธิการก็จะส่งต่อไปที่สภาเพื่อพิจารณาในวาระ 2-3 และส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไม่ได้ดำเนินการต่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ. …. ที่ตั้งขึ้นใช้ในโครงการนี้ จำนวน 1.22 แสนล้านบาท จะทำอย่างไรต่อไป นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตรงนี้ยังไม่ได้คิดกัน เดี๋ยวไปดูอีกที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดการเปิดลงทะเบียน ดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านแอป ทางรัฐ ตั้งแต่ 1 ส.ค.67 ถึงปัจจุบัน มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 30 ล้านคน ส่วนความกังวลของผู้ที่ลงทะเบียนไปแล้ว ที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยของข้อมูล
หากโครงการไม่ได้ไปต่อนั้น ได้รับการยืนยันว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ไม่มีการดึงข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลการเงินมาไว้ที่แอป เพียงแต่จะส่งชื่อผู้ลงทะเบียนไปสอบถามความถูกต้อง แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กรมสรรพากร และสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ จะส่งคำตอบกลับมาว่าผ่าน หรือไม่ผ่าน เท่านั้น ไม่ได้ส่งข้อมูลส่วนบุคคลกลับมาแต่อย่างใด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์