’ครม.แพทองธาร’ เร่งเครื่องเศรษฐกิจ แก้ราคาสินค้าแพง - จ่อกระตุ้นท่องเที่ยว

’ครม.แพทองธาร’ เร่งเครื่องเศรษฐกิจ  แก้ราคาสินค้าแพง - จ่อกระตุ้นท่องเที่ยว

“แพทองธาร” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.นัดพิเศษวันนี้ หารือพรรคร่วมก่อนแถลงนโยบาย 12-13 ก.ย.นี้ ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลเร่งนโยบาย “พิชัย” เผย ”พาณิชย์” เตรียมภารกิจเร่งด่วนแก้ราคาสินค้าแพง เข้มงวดสินค้าจีนทะลักไทย เร่งเจรจรา FTA “สรวงศ์“ พร้อมมอบนโยบาย กระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี

ภายหลังจากนำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ที่ทำเนียบรัฐบาล สำหรับการประชุม ครม. นัดพิเศษ ในวันนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะเสนอรายละเอียด วาระการประชุม ครม.นัดแรกได้แก่ การจัดทำคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา และให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่สำคัญในการประชุม ครม.ได้แก่ แนวทางการประชุมคณะรัฐมนตรีและการเสนอเรื่องต่อครม.

’ครม.แพทองธาร’ เร่งเครื่องเศรษฐกิจ  แก้ราคาสินค้าแพง - จ่อกระตุ้นท่องเที่ยว

การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตรวจพิจารมาร่างมติครม.และกลั่นกรองรื่องก่อนเสนอ ครม.

การจัดผลัดเวรเฝ้าฯ ของครม.และ การจัดผลัดเวรเฝ้าฯ ของครม.ในงานพระราชพิธี รัฐพิธี และพิธีสำคัญในโอกาสต่าง ๆ 

ทั้งนี้หลังการประชุม ครม.นายกฯจะนำ ครม.แถลงข่าวการประชุม ครม.นัดพิเศษด้วย

’ครม.แพทองธาร’ เร่งเครื่องเศรษฐกิจ  แก้ราคาสินค้าแพง - จ่อกระตุ้นท่องเที่ยว

พาณิชย์เร่งดูแลราคาสินค้า

วานนี้ (6 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ว่าในการทำงานของกระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดการทำงานในหลายเรื่องที่เป็นปัญหากระทบกับประชาชน เรื่องแรกคือการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงโดยต้องไปดูในเรื่องของต้นทุนสินค้าว่า สินค้านั้นมีต้นทุนสินค้าที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่เหมาะสมต้องเรียกผู้ประกอบการมาคุยกันว่าจะลดราคาสินค้าลงอย่างไรเพื่อให้ประชาชนไม่เดือดร้อน 

เรื่องต่อมาคือเรื่องของสินค้าจีน ซึ่งทะลักเข้ามาในประเทศไทยมากก็ต้องดูว่าเรื่องนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร โดยตอนนี้มีหลายมาตรการที่ออกมาแล้ว ก็ต้องมาดูว่ามาตรการที่ออกมาแล้วสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องออกมาตรการเพิ่มและจะออกมาตรการอย่างไร 

นอกจากนั้นในเรื่องต่างประเทศต้องเร่งเรื่องของการเจรจาความตกลงเขตเสรีการค้ากับต่างประเทศ (FTA) ซึ่งถ้าประเทศไทยมีข้อตกลง FTA มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้เรามีการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น 

 

นอกจากนี้ในการลงทุนของต่างประเทศที่เป็นโอกาสของไทยก็ต้องมีการเร่งรัดให้มีการค้าและการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หรือ  “PCB” (Print Circuit Board) ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่สำคัญของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนอย่างมากและจะเป็นการเติบโตที่เป็นนิวเอสเคิร์ฟใหม่ของประเทศไทย โดยปีที่ผ่านมามีการลงทุนกว่า 1.5 แสนล้านบาท และหากมีการส่งเสริมที่ดีจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นล้านล้านบาทได้เลยเนื่องจากมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นคลัสเตอร์ที่จะมีการลงทุนเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนใหม่ๆนี้จะช่วยเปลี่ยนโครงสร้างการส่งออกของประเทศไทยได้ในอนาคต 

“สินค้าเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการส่งออกที่เป็นสินค้าใหม่ๆที่มีมูลค่าสูง การจ้างงานก็จะดีขึ้นและค่าแรงของคนไทยก็จะดีขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเหล่านี้จ้างงานได้กว่า 40,000 บาทต่อเดือน หรือถ้าเป็นวิศวะกรในสาขานี้ก็สามารถที่จะมีเงินเดือนเป็นแสนๆบาทได้เลย” นายพิชัย กล่าว 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังจากได้เข้าเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับปฏิบัติหน้าที่ เสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าในวันที่ 9 กันยายน 2567 จะเดินทางเข้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ และน่าจะหารือกับผู้บริหารของกระทรวง จากนั้นจึงมีการมอบนโยบายการทำงานอย่างเป็นทางการต่อไป

เตรียมออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว

ทั้งนี้มองว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2567 โดยจะขอหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณารายละเอียดอีกครั้งว่า จะต้องมีเรื่องอะไรที่ต้องผลักดันอีกบ้าง โดยขอเวลาพิจารณาข้อมูลเก่าก่อนว่า มีมาตรการอะไรที่ทำแล้วจะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มากขึ้น

’ครม.แพทองธาร’ เร่งเครื่องเศรษฐกิจ  แก้ราคาสินค้าแพง - จ่อกระตุ้นท่องเที่ยว

“นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาช่วงเวลานี้ก็ใกล้เข้าสู่ช่วง High Season หรือฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ก็ต้องเร่งทำเพื่อรองรับช่วงนี้ให้ดีที่สุด เช่นเดียวกับการกระตุ้นไทยเที่ยวไทยด้วย” 

อย่างไรก็ตามงานเร่งด่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะต้องเน้นดูเรื่องการเปิดตลาดการท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดรายได้เข้าประเทศ โดยเฉพาะการสานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิมที่ได้มีการเปิดตลาดเอาไว้เบื้องต้นแล้วหลายประเทศ พร้อมกันนี้ยังต้องเพิ่มศักยภาพของการท่องเที่ยวในประเทศ หรือกระตุ้นไทยเที่ยวไทยมากขึ้นกว่าเดิม เพราะหากทำได้จะช่วยกระจายรายได้ไปยังชุมชน และประชาชนในหลาย ๆ พื้นที่

ส่วนการกำกับดูแลงานด้านกีฬาของรัฐบาลนั้น ในระยะสั้นจะให้ความสำคัญกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2568 โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการเข้าไปขับเคลื่อนการเตรียมตัวรองรับการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ของไทย