ปิดทองหลังพระฯรุกเยี่ยมราษฎรโครงการศิลปาชีพ จ.นราธิวาส
ปิดทองหลังพระฯรุกเยี่ยมราษฎรในโครงการศิลปาชีพนำหมอไปตรวจรักษาโรคพร้อมแจกแว่นสายตาให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
วันที่ 9 มกราคม 2568 นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เป็นประธานโครงการตัดแว่นสายตาให้กับราษฎรในโครงการศิลปาชีพ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
นายกฤษฎา บุญราช กล่าวว่าตั้งแต่ช่วงปี 2527 เป็นต้นมาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงก่อตั้งกลุ่มศิลปาชีพบ้านโต๊ะโมะ ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เพื่อสนับสนุนให้ราษฎรที่มีความรู้ด้านถักทอผ้าพื้นเมืองรวมกลุ่มเป็นกลุ่มศิลปาชีพโดยได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้างโรงทอผ้ารวมที่บ้านโต๊ะโมะ
โดยมีราษฎรในพื้นที่มาเรียนรู้การถักทอผ้าด้วยลวดลายที่ทันสมัยเป็นที่ต้องการของตลาดซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 40 ปี สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับสมาชิกกลุ่ม และครอบครัว ตลอดจนช่วยรักษาเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และภูมิปัญญา ของพี่น้องราษฎรสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันและราษฎรสมาชิกบางที่สูงอายุเริ่มมีปัญหาด้ายสายตาซึ่งเป็นอุปสรรค ในการทำงานหัตถกรรมศิลปาชีพ สถาบันปิดทองหลังพระฯจึงได้ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส โรงพยาบาลสุไหงโกลก โรงพยาบาลตากใบ โรงพยาบาลสุคิริน อำเภอสุคิริน และภาคเอกชน ทำการตรวจวัดค่าสายตา และทำการตัดแว่นสายตาให้กับสมาชิกกลุ่ม โดยมีผู้ที่จำเป็นจะต้องได้รับแว่นสายตา จำนวน 74 ราย และจากการคัดกรองตรวจวัดสายตาพบว่ามีสมาชิกกลุ่มศิลปาชีพมีภาวะตาต้อกระจก จำนวน 14 ราย จึงได้ประสานงานส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดตาต้อกระจกทั้ง 14 ราย
นายกฤษฎา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันมีภารกิจในการน้อมนำแนวพระราชดำริ และหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มาแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพการประกอบอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร โดยดำเนินการใน 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาแหล่งน้ำ การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาสุขภาพพลานามัย ในด้านการพัฒนาสุขภาพพลานามัย
นอกจากการตรวจวัดและตัดแว่นสายตาให้กับราษฎรในครั้งนี้แล้ว สถาบันยังได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทางด้านการแพทย์ และด้านสังคม ออกหน่วยทันตกรรม และจักษุแพทย์ เพื่อตรวจรักษาให้กับราษฎรในพื้นที่ห่างไกล และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่การทำงานของสถาบัน
ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ในส่วนของจักษุแพทย์ ได้ทำการออกหน่วยแพทย์ผ่าตัดต้อกระจกให้กับราษฎร รวม 12 ครั้ง มีราษฎรได้รับการผ่าตัดกว่า 1,400 ราย และจะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป