อย่ารีบเลียนแบบจนพร่ำเพรื่อ | บวร ปภัสราทร
เห็นได้ชัดกันในเครือข่ายสังคมว่าทุกวันนี้ การเลียนแบบเกิดขึ้นอย่างพร่ำเพรื่อ ใครสักคนมากระโดดโลดเต้นแล้วคนไลก์ คนติดตามดูเยอะ วันสองวันต่อมาก็มีอีกหลายคนมากระโดดโลดเต้นในทำนองเดียวกัน บนความหวังว่าการเลียนแบบของตนจะดึงคนมาติดตามได้มากขึ้น
การเสพเครือข่ายสังคมอยู่เป็นประจำมักทำให้เราทำอะไรคิดอะไรตามกระแสมากขึ้น โดยไม่ค่อยจะรู้ตัว รู้สึกกันไปว่าคิดของใหม่เสี่ยงกว่าเลียนแบบอะไรก็ตามที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนั้น ดังนั้น การเลียนแบบจึงเกิดขึ้นแทบจะเป็นอัตโนมัติ เพียงแต่จะมากบ้างน้อยบ้างเท่านั้น
อิทธิพลของการเลียนแบบตามกระแสในวันนี้ระบาดไปถึงการงานอื่นๆ อีกด้วย จะเลือกเรื่องอะไรมาคุยกันก็มักเอาเรื่องที่เป็นกระแสมาเป็นจุดเริ่มต้น คุยกันอยู่เป็นสัปดาห์แค่สองสามเรื่องที่เป็นกระแส ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเราน้อยมาก จะเสนอผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ก็มักเกาะไปกับกระแสที่มีอยู่ในขณะนั้น ของใหม่หลายอย่างเลยกระจุกอยู่รอบๆ
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นกระแส บางทีก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการจริงจัง เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่เลียนแบบมาเพื่อให้เห็นกันว่าของฉันไม่ตกกระแส กลายเป็นเศรษฐกิจแบบเฮโล คือกระแสมาทางไหน ฉันตามไปด้วยทางนั้น
(ภาพถ่ายโดย cottonbro)
ถ้าเฮโลเลียนแบบคนอื่นอย่างพร่ำเพรื่อ จะยืนยันให้ผู้คนเชื่อเป็นเบื้องต้นว่าเราเชื่อว่าวิธีการของคนที่เราเลียนแบบมานั้นเป็นวิธีการที่ดี เรายืนยันว่าวิธีการนั้นเป็นวิธีการที่โดดเด่น ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ไปเลียนแบบมาทำบ้าง
หากเป็นการแข่งขันกันทำงาน จึงแน่นอนว่าใครเลียนแบบก็แพ้การแข่งขันไปตั้งแต่แรกแล้ว ผู้คนไม่เห็นอะไรใหม่จากเรา เห็นแค่การเลียนแบบคนอื่น เราเป็นได้แค่ที่สองที่สามเท่านั้น หมดสิทธิเป็นที่หนึ่ง ถ้าค้าขายแข่งกัน เราจะชนะคนที่เราเลียนแบบมาได้น่าจะมีแค่ทางเดียวคือขายถูกกว่า งานเยอะเท่าเขาแต่ได้เงินน้อยกว่าเขาแน่ๆ
ที่น่าระวังอย่างยิ่งสำหรับการทำงานเลียนแบบคนอื่น เพื่อหวังให้อยู่ในกระแส โดยไม่ได้ดูว่าเรากับคนที่เราอยากเลียนแบบนั้นแตกต่างกันมากแค่ไหน ความเก่งที่เขาใช้สร้างสรรค์วิธีการทำงานนั้นขึ้นมา อาจไม่ใช่ความเก่งที่เรามี เลียนแบบเขา แต่ไม่เก่งเหมือนเขา การเลียนแบบจะด้อยค่างานของเราลงไปทันที
(ภาพถ่ายโดย Alex Green)
เคยมีอธิการบดีท่านหนึ่งร้องรำทำเพลงเก่ง ท่านเลยไปร่วมร้องเพลงกับนักศึกษาบ้าง บัณฑิตบ้าง ร้องแล้วก็กลายเป็นกระแสในเครือข่ายสังคมทั้งท่าทางร้องเพลง และการแต่งเนื้อแต่งตัวให้เหมือนนักศึกษา
สมัยนั้นก็เลยมีอธิการบดีท่านอื่นที่ร้องเพลงไม่เป็นและมากด้วยอาวุโสไปทำตัวเลียนแบบ ผลที่ตามมาไม่ใช่กระแสความชื่นชม แต่เป็นกระแสเวทนาแทน ดังนั้น ใครที่วิ่งไม่เก่ง เดินคนเดียวไม่เป็น พอเห็นคนที่วิ่งเก่งเดินคนเดียวเป็นประจำเขาทำอะไรแล้วผู้คนชอบใจ หากพยายามจะเลียนแบบแล้ว อาจกลายเป็นการเล่นละครนอกจอให้คนดูเสียมากกว่า
จะเลียนแบบอะไรจากใครให้ดูก่อนว่าคนนั้นเขาเก่งเรื่องอะไร เราเก่งเหมือนเขาหรือไม่ ดูว่าที่เขาทำนั้นถ้าเรามาทำเลียนแบบบ้างแล้วจะน่าสนใจ หรือน่าเวทนาในสายตาของผู้คนไว้ด้วย
ก่อนจะเลียนแบบอะไร จากใคร ดูให้มั่นใจก่อนว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานของเรา กับของเขามีบริบทเหมือนกันหรือไม่ ถ้าเขาเน้นคนรุ่นใหม่ เราเน้นคนเก่าแก่ ลองนึกแค่เลียนแบบการร้องเพลงในแบบที่คนหนุ่มสาวชอบมาชวนให้คนเก่าแก่ได้ฟัง คงนึกภาพออกว่าภาพคนเก่าแก่กระโดดโลดเต้นเลียนแบบคนหนุ่มสาวนั้นดูแล้วจะรู้สึกกันอย่างไร
ถ้าไม่รีบร้อนแข่งขันการงานกับใครมากมายอะไรนัก อย่าเพิ่งรีบเลียนแบบอะไรจากใครในทันทีที่เห็นว่าผู้คนชอบใจการงานของเขา คิดวิเคราะห์ความต้องการและความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานของเราให้รอบคอบเสียก่อนจะตัดสินใจเลียนแบบ
อย่าลืมว่าในทันทีที่ทำอะไรที่เลียนแบบไปแล้ว จะเท่ากับการยืนยันความสำเร็จของงานของเขา เพราะถ้าไม่ประสบความสำเร็จเราคงไม่เลียนแบบ
เลียนแบบคนอื่นในทันทีเห็นว่าเขาทำแล้วคนชอบ เริ่มกระทำได้ง่าย แต่เลียนแบบไปแล้วเกิดผลเสียใดๆ ขึ้นมา จะย้อนกลับไปแก้ไขทุกอย่างให้กลับดีขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ ดังนั้น คิดให้รอบคอบก่อนการเลียนแบบทุกครั้ง
คอลัมน์ : ก้าวไกลวิสัยทัศน์
รศ.ดร.บวร ปภัสราทร
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี