กวดวิชาออนไลน์เลือกอย่างไร ในมุมมองเด็กยุค 4.0

กวดวิชาออนไลน์เลือกอย่างไร ในมุมมองเด็กยุค 4.0

ในสังคมปัจจุบันการแข่งขันอย่างดุเดือดทางการศึกษายังทำให้เด็กและผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการเรียนกวดวิชา แต่จากพฤติกรรมเด็กในยุค 4.0

ภาพของการไปนั่งเรียนตามโรงเรียนกวดวิชาเปลี่ยนไป โรงเรียนกวดวิชาหันมาให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาทำให้กลายไปสู่ระบบ online platform มากขึ้น

นักศึกษาสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล มิรันตี น้อยวงษ์ จึงหยิบหยกสถานการณ์ดังกล่าวมาศึกษา Customer journey ในการค้นหาและสมัครเรียนกวดวิชาออนไลน์ ของกลุ่มนักเรียนมัธยมปลาย เพื่อทำให้สถาบันกวดวิชาออนไลน์ได้นำไปเป็นหลักเกณฑ์ในการเลือกใช้ และตั้งงบประมาณที่เหมาะสมในการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และนำไปพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด ให้สามารถตอบสนองความต้องการ และพฤติกรรมของกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมปลาย เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดกวดวิชาออนไลน์ จากผลการวิจัยพบว่า

Step 1 เด็กนักเรียนระดับมัธมปลายจะรู้จักสถาบันกวดวิชาออนไลน์ผ่านทางคนรู้จักแนะนำกันต่อๆมา โดยจะมีทั้งเพื่อน และรุ่นพี่ที่เคยเรียนสถาบันกวดวิชานั้นมาก่อน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อนเคยเรียนแล้วพบว่าคะแนนสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ และเป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ เมื่อกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายเกิดการรับรู้ในตัวแบรนด์ของสถาบันกวดวิชาออนไลน์จากการที่มีคนรู้จักแนะนำแล้ว ก็ยังมีการนำข้อมูลที่คนรู้จักแนะนำมาหาข้อมูลต่อ โดยการสืบค้นผ่านทางช่องค้นหาบนเว็บไซต์กูเกิล โดยคีย์เวิร์ดหลักๆที่ทำการค้นหาจะทำการใส่ชื่อสถาบันลงไป แล้วอ่านข้อมูลต่อ

Step 2 เมื่อถึงช่วงของการประเมินทางเลือกเพื่อตัดสินใจสมัครเรียนกวดวิชาออนไลน์ กลุ่มนักเรียนมัธยมปลายทำการเปรียบสถาบันกวดวิชาออนไลน์โดยการดูราคาของแต่ละแห่ง รวมถึงรูปแบบของวิดีโอการสอน ตลอดจนเนื้อหาการเรียน โดยผลการวิจัยพบว่า วิชาคณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่กลุ่มนักเรียนมัธยมปลายเลือกเรียนมากที่สุด ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นวิชาที่มีเนื้อหายาก จำเป็นต้องทบทวนซ้ำ ดังนั้นการเรียนในรูปแบบออนไลน์จึงตอบโจทย์ที่สุด

 Step 3 การชำระเงินในการสมัครเรียนกวดวิชาออนไลน์ ผลวิจัยพบว่า นักเรียนระดับมัธยมปลาย ทำการชำระเงินผ่านทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินผ่านธนาคาร การชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ การชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส และการชำระเงินโดยตรงกับทางสถาบัน

Step 4 การใช้บริการสถาบันกวดวิชาออนไลน์ ในการใช้บริการสถาบันกวดวิชาออนไลน์ แบ่งผลการวิจัยออกเป็น 2 ประเด็น คือประเด็นแรกด้านความประทับใจในการใช้บริการสถาบันกวดวิชาออนไลน์ โดยพบว่า นักเรียนระดับมัธยมปลายที่มีความประทับต่อการเรียนกวดวิชาออนไลน์ เพราะ ช่วยในเรื่อง การประหยัดเวลาด้านการเดินทาง ส่วนประเด็นที่สองด้านความไม่พึงพอใจในการใช้บริการสถาบันกวดวิชาออนไลน์ เนื่องจากไม่มีอาจารย์ผู้สอน เมื่อเกิดคำถามหรือข้อสงสัยก็ไม่สามารถถามอาจารย์ผู้สอนได้โดยตรง

Step 5 จากผลการวิจัยพบว่า กลุ่มนักเรียนมัธยมปลายจะกลับไปสมัครเรียนกวดวิชาออนไลน์อีก เนื่องจากเหตุผลจากความประทับใจในการเรียนกวดวิชาออนไลน์ข้างต้น และนอกจากกลับไปสมัครเรียนกวดวิชาด้วยตัวเองแล้ว จะยังบอกต่อให้คนรู้จักไปเรียนกวดวิชาออนไลน์อีกด้วย

ดังนั้นสถาบันกวดวิชาออนไลน์สามารถนำผลการวิจัยนี้ไปปรับใช้ในในการวางแผนการตลาดบนสื่อต่างๆ และพัฒนาคอร์สเรียนให้เนื้อหาตรงกับที่ผู้เรียนจะต้องนำไปใช้สอบอยู่เสมอ ด้านการพัฒนาการสอนให้มีความน่าสนใจ และควรมีวิดีโอตัวอย่างทดลองเรียนให้กับผู้เรียนได้ทดลองเรียนได้ก่อนจะทำการสมัคร เพราะผู้เรียนมักจะมีการเปรียบเทียบดูวิดีโอของแต่ละสถาบันเพื่อทำการตัดสินใจก่อน

ด้านการลงโฆษณาบนกูเกิล จากผลการวิจัยจะเห็นได้ว่ากลุ่มนักเรียนมัธยมปลายมีการสืบค้นข้อมูลผ่านของค้นหาบนกูเกิล ดังนั้นการลงโฆษณากูเกิล จะทำให้สถาบันกวดวิชาออนไลน์ผ่านตาของผู้เรียนได้ง่ายขึ้น และสามารถทำให้เกิดการซื้อได้ นอกจากการซื้อโฆษณาบนกูเกิลแล้ว ควรจะทำให้เว็บไซต์ของสถาบันขึ้นมาอยู่หน้าแรกบนกูเกิลแบบไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาด้วย เพื่อให้ลดค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา

ด้านช่องทางการเรียนกวดวิชาออนไลน์ของผู้เรียน ควรจะพัฒนาเว็บไซต์ให้ผู้เรียนสามารถตอบโต้กับอาจารย์ผู้สอนได้แบบทันที หรือให้อาจารย์ผู้สอนรีบตอบกลับข้อความของผู้เรียน เนื่องจากกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายยังคงมีความไม่พอใจเกี่ยวกับการเรียนกวดวิชาออนไลน์ในเรื่อง การไม่มีอาจารย์คอยตอบคำถามเมื่อเกิดข้อสงสัย ดังนั้นหากพัฒนาตรงจุดนี้ได้ จะทำให้ผู้สถาบันกวดวิชาออนไลน์ สามารถปิดจุดอ่อนของการเรียนแบบออนไลน์ได้

--------------

เครดิต งานวิจัยเรื่อง Customer journey ในการค้นหาและสมัครเรียนกวดวิชาออนไลน์ ของกลุ่มนักเรียนมัธยมปลาย โดย มิรันตี น้อยวงษ์ นักศึกษาปริญญาโท สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล