อกเกือบหัก แอบรักคุณลูกค้า

ย้อนกลับไปสองปีก่อน ทีมงานเดินมาบอกว่ามีลูกค้าจากบริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) ขอคุยด้วยเรื่องการปฏิรูปองค์กรผ่านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Culture Change & Transformation) สำหรับดิฉันแล้วแปลกใจมาก เพราะในวงการพัฒนาผู้นำและองค์กรต่างยกย่องให้บริษัทฟูจิฟิล์ม เป็นเทพแห่งการนำการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ผ่านกรณีศึกษาสุดฮิต “ฟูจิฟิล์มทำอย่างไรไม่ให้ล้มเหมือนโกดัก”

สำหรับองค์กรที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่ทำธุรกิจผลิตฟิล์มกล้องถ่ายรูป กล้องดิจิตอล ธุรกิจถ่ายภาพ เข้าสู่ธุรกิจสุขภาพ ฟิล์มเอกซเรย์ และล่าสุดธุรกิจเครื่องสำอาง แล้วเขายังต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก?   

การประชุมครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2018 เป็นวันแรกที่ดิฉันได้พบ ซึโตมุ วาตานาเบ้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) ซึ่งเพิ่งย้ายมาดูแลประเทศไทยได้ไม่กี่เดือน ท่านได้พูดคุยถึงความฝัน แรงบันดาลใจ วัฒนธรรมองค์กรของฟูจิฟิล์ม บอกตามตรงจากที่เคยประทับใจองค์กรนี้ผ่านการอ่านกรณีศึกษา พอได้มาสัมผัสของจริง ตกหลุมรักองค์กรนี้ตั้งแต่วันแรกเลย 

2 ปีกับการทำงานกับทีมผู้นำองค์กร บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) ในการร่วมปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ดิฉันได้เรียนรู้มากมาย ขอสรุป 3 เคล็ดลับความสำเร็จขององค์กรระดับโลกองค์กรนี้

1. คนที่คิดว่าตัวเองจะ “ไม่รอด” มักจะ “รอด” 

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา 80% ของเรื่องที่คุยกับวาตานาเบ้ซังจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคต วาตานาเบ้ซังสอนดิฉันว่า สมัยนี้ข้อมูลมีเยอะแยะ  แต่ไม่ใช่ทุกข้อมูลที่มีความสำคัญ สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ข้อมูลเหล่านั้นมันบอกอะไรแก่เรา เราต้อง คิด คิด คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่กระทบต่อความอยู่รอดในอนาคต ซึ่งนี่ไม่ใช่การ Paranoid แต่คือการสร้าง Sense of Urgency ภายใต้สมมติฐานเพื่อให้ทุกคนเห็นความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนเดี๋ยวนี้  โดยไม่ต้องรอให้วิกฤตมาถึง

1. “ยอมรับ” แต่ไม่ “ยอมหยุด”

คุณเชื่อหรือไม่ว่าในช่วงโควิดนี้ หลายองค์กรต่างหันไปดับไฟและหยุดกิจกรรมพัฒนาพนักงานองค์กรลง แม้ฟูจิฟิล์มเองก็ต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งในหลาย ๆ องค์กรที่ประสบกับวิกฤตในครั้งนี้ แต่กลับเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส นอกจากไม่หยุด กลับยิ่งให้ความสำคัญกับการเร่งพัฒนาทีม และยกเอาวัฒนธรรมองค์กรมาเป็นเครื่องมือพาองค์กรผ่านวิกฤต

1. Passion เอาชนะทุกสิ่ง

หากทำทุกอย่างถูกต้อง ตั้งแต่มี Sense of Urgency ที่ใช่ จัดลำดับความสำคัญเป็น วางแผนรอบด้านทั้งแผนหลักแผนสำรอง สุดท้ายจะไปถึงเป้าหมายที่ฝันไว้ แต่นั่นยังไม่พอ เพราะเมื่อใช้  Passion ทำงาน มันจะเป็นตัวพาให้ผลลัพธ์ที่มาถูกทางอยู่แล้ว ยิ่งประสบความสำเร็จถล่มทลายมากขึ้น เพราะ Passion จะพาไปหาจุดที่มากกว่าคำว่าประสบความสำเร็จ

แม้วันนี้ (26 มิถุนายน 2563) เป็นวันปิดโครงการ ที่ทางบริษัท สลิงชอท กรุ๊ป กับ ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) ได้ร่วมเดินทางปรับเปลี่ยนและสร้างวัฒนธรรมองค์กร  แต่หัวใจดิฉันและทีมงานกลับยิ่งพองโต ด้วยประโยคแรกที่วาตานาเบ้ซังพูดเปิดประชุมพร้อมรอยยิ้มบนหน้าจริงจังเหมือนวันแรก “วิกฤตในครั้งนี้ ทำให้ยิ่งมั่นใจว่า เรามาถูกทางแล้วกับการสร้างวัฒนธรรม เตรียมความพร้อมให้คน ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่เราได้เดินทางร่วมกันตลอด 2 ปีที่ผ่านมา”

โอ้ย…เจอแบบนี้ ไม่ให้ตกหลุมรักองค์กรนี้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายได้อย่างไร