Lifelong Learning: ยิ่งอนาคตไม่นิ่ง ยิ่งต้องเรียนรู้
โลกในศตวรรษที่ 21 ทำให้เราต้องกลับมาคิดทบทวนเรื่องการเรียนรู้กันอีกครั้ง การเรียนรู้ตลอดชีวิตมีความสำคัญมากขึ้นในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
เราต้องตระหนักถึงการเรียนรู้ทุกรูปแบบไม่ใช่แค่หลักสูตรการศึกษาที่เป็นทางการอยู่ในรั้วโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาเท่านั้น หากแต่การเรียนรู้มีหลายรูปแบบและเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมต่างๆมากมายตั้งแต่ หลักสูตรอย่างเป็นทางการในโรงเรียนหรือวิทยาลัย ไปจนกระทั่งการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ประเภทต่างๆในครอบครัว ชุมชนและที่ทำงาน
การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning เป็นเสมือนของขวัญที่มีคุณค่ากับชีวิต หลายประเทศจึงให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ตัวอย่างประเทศที่น่าสนใจที่เราคงได้ยินกันมาแล้วคือ ประเทศสิงคโปร์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างเข้มข้น ผ่านโครงการ SkillsFuture ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ของประเทศ
โครงการ SkillsFuture เป็นการขับเคลื่อนระดับชาติที่มุ่งสร้างให้เกิดโอกาสแก่ชาวสิงคโปร์ในการพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนสิงคโปร์ที่อยู่ในช่วงวัยไหน ตั้งแต่เด็ก คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ คนที่เคยมีพื้นการศึกษาระดับใดมาก็ตาม หรือไม่มีการศึกษา ก็สามารถมีอนาคตที่ดีขึ้นได้ด้วยการเรียนรู้ทักษะใหม่
สิงคโปร์มองว่า การสร้างทักษะ จะเป็นการสร้างอนาคต รัฐบาลสิงคโปร์จึงเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนรู้ว่าแม้กระทั่งทำงานแล้วก็ยังต้องเรียนรู้อยู่เสมอ รัฐบาลสิงคโปร์ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้วยการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาทักษะและอาชีพ โครงการ SkillsFuture ของสิงคโปร์นี้ทำให้คนทุกวัยสามารถเรียนรู้ได้ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ประเทศเกาหลีใต้ก็เป็นอีกประเทศที่น่าสนใจในเรื่องนี้ โดยภาพรวมแล้ว ประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคนที่สมบูรณ์ในทุกด้าน มีความรู้และทักษะบนพื้นฐานความคิดเชิงสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
เกาหลีใต้ให้ความสำคัญและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) โดยส่วนหนึ่งของสถานศึกษาในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาจากภาคส่วนอุตสาหกรรมที่เข้ามามีส่วนร่วมจัดการเรียนการศึกษา ผลิตและสร้างเสริมแรงงานที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับความต้องการโดยตรง มีระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างระดับรัฐบาล การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เกาหลีใต้มีศูนย์ที่ส่งเสริมแนวคิด “ความเพลิดเพลินจากการเรียนรู้และความสุขจากการแบ่งปัน” และมอบโอกาสในการเรียนรู้ให้กับคนทุกวัย เพื่อส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้แบบเปิด นำเสนอข้อมูลการเรียนรู้ที่กำหนดเองและขยายการสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง
ทุกๆสองปี UNESCO Institute for Lifelong Learning (UIL) ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัลเมืองแห่งการเรียนรู้ เมืองเหล่านี้ได้แสดงความก้าวหน้าและความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับท้องถิ่น ซึ่งหลายเมืองของเกาหลีได้รับรางวัลนี้ เช่น เมืองซูวอน ได้รางวัลเมืองแห่งการเรียนรู้ประจำปี 2017 เมือง Seodaemun-gu ได้รางวัลเมืองแห่งการเรียนรู้ประจำปี 2019
กรณีตัวอย่างการเรียนรู้ตลอดชีวิตในเมืองซูวอน โดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกการเรียนรู้ที่มีพร้อมและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ซูวอนได้จัดตั้งโปรแกรมการเรียนรู้ในห้องสมุดศาลากลางหมู่บ้านและศูนย์ชุมชนรวมถึงศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตประมาณ 600 แห่งซึ่งช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เมืองนี้ยังได้พัฒนาโปรแกรมการเรียนรู้แบบกำหนดเองซึ่งสนับสนุนเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตซึ่งประชาชนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
สำหรับประเทศไทย การเติมความรู้และการสร้างโอกาสแบบไร้พรมแดนหรือไร้ขีดจำกัด จะช่วยยกระดับความสามารถและโอกาสของคนไทย การเติมความรู้ทักษะที่จำเป็นที่ขาดไปเหมาะสมกับอาชีพ มีทักษะในการเปลี่ยนแปลงปรับตัว และเสริมทักษะแห่งอนาคตจะทำให้ได้รับโอกาสที่ดีเพื่อที่จะทำให้เริ่มเข้าสู่วงจรแห่งการพัฒนา ซึ่งเรื่องการศึกษาการเรียนรู้ตลอดชีวิต และเทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับประเทศไทยในห้วงเวลาเช่นนี้
จากนี้ไปจะต้องเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงพลวัตโลกหรือแสวงหาโอกาสที่เปิดกว้าง การพัฒนาทักษะพื้นฐานต้องกว้างกว่าที่เคยปฏิบัติกันมา การปฏิรูปการเข้าถึงการเรียนรู้ การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ ตลอดจนการสนับสนุนการสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้เป็นสิ่งที่เราต้องขบคิด นอกจากนี้ การออกแบบกลไกการทำงานก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างพันธมิตรที่หลากหลาย ตลอดจนเสริมสร้างความเข็มแข็งในการทำงานของเครือข่าย
เพราะการเรียนรู้เป็นรากฐานของชีวิต เป็นโอกาสของชีวิต ชีวิตและอนาคตไม่เคยหยุดนิ่ง การศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิตก็เช่นกัน
*บทความโดย ประกาย ธีระวัฒนากุล ธราธร รัตนนฤมิตศร สถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) https://www.facebook.com/thailandfuturefoundation/