ทำไมคนเราถึงแบ่งฝักแบ่งฝ่าย?

ทำไมคนเราถึงแบ่งฝักแบ่งฝ่าย?

จากสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมคนเราถึงแบ่งฝักแบ่งฝ่าย?

จากประวัติศาสตร์ สิ่งที่ทำให้มนุษย์ขัดแย้งกันมี 4 เรื่องหลักๆ คือ 1.เชื้อชาติ 2.ศาสนา 3.วัฒนธรรม 4.การเมือง ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงหนีไม่พ้น ความคิดที่ต่างกัน ความเชื่อที่ต่างกัน รูปร่างหน้าตาสีผิวที่ต่างกัน 

จากการทดลองที่ชื่อว่า minimal study ของทาจเฟล ทำให้เห็นว่ามนุษย์เราแบ่งกลุ่มกันได้ง่ายมากโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ขอให้มีอะไรต่างกันแค่เล็กน้อย แค่รู้สึกไม่ชอบกัน ก็พร้อมที่จะแบ่งพรรคแบ่งพวกแล้ว แค่ไม่ชอบกัน ก็คนละพวกแล้ว โดยมนุษย์ก็จะพยายามหาคนที่คิดเหมือนกันเพื่อทำให้เกิดพลังของฝูงชน ทำให้กล้าที่จะทำอะไรบางอย่างร่วมกันโดยที่เป็นปัจเจกอาจไม่กล้าทำ 

เมื่อเราแบ่งกลุ่มแล้วจะเกิดปฎิกิริยาทางสมองโดย คือ 1.สมองจะทำให้เราเชื่อว่าความต่างระหว่างกลุ่มเป็นเรื่องจริง 2.เราจะมองฝ่ายตรงข้ามว่าเหมือนๆ กันหมดโดยเราจะตั้งป้อมตัดสินและใส่คุณค่าบางอย่างให้ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เหมือนเรา 3.เราจะมองว่ากลุ่มของเราดีกว่า

บริษัท เอ็นไวโร (ไทยแลนด์) จะพาไปวิเคราะห์ว่าทำไมความเชื่อที่ต่างกัน ถึงมีผลให้มนุษย์ขัดแย้งกันได้ขนาดนี้ มนุษย์ไม่มีเหตุผลกันเหรอ

ซึ่งโดยธรรมชาติ เมื่อมนุษย์ได้ฟัง เห็น หรือ สัมผัส สมองส่วนแรกที่จะทำงานก่อนคือสมองด้านอารมณ์ เพื่อประเมินสิ่งที่ได้ยิน เห็น หรือ สัมผัส ว่า ชอบ/ไม่ชอบ เห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย ถูก/ผิด สมองทำการตัดสินตลอดเวลาในทุกๆเรื่องด้วยอารมณ์ก่อน จากนั้นค่อยตามมาด้วยเหตุผลมาประกอบเข้าข้างตัวเองว่าทำไมถึงตัดสินแบบนั้น ให้ดูว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และ เชื่อเช่นนั้นอย่างหมดใจ

เคยมีงานทดลองกับคนไข้ ที่อธิบายปรากฎการณ์สมองใช้อารมณ์ก่อน แล้วค่อยพยายามหาเหตุผลมาอธิบายได้อย่างน่าสนใจมาก โดยนักวิจัยเขียนคำสั่งบนกระดาษให้คนไข้อ่านว่า "จงหัวเราะ" เมื่อคนไข้อ่านแล้วจึงหัวเราะขึ้นมา (สมองด้านขวา ด้านอารมณ์ทำงาน ) แต่พอถามว่าทำไมจึงหัวเราะ (สมองด้านซ้าย ด้านเหตุผล พยายามหาเหตุผลมาตอบว่าทำไมถึงหัวเราะ) เช่น คุณทำหน้าตลก เห็นภาพแล้วตลก เป็นต้น ทั้งที่จริงๆ แล้ว เราไม่ต้องหาเหตุผลมาอธิบายอารมณ์ก็ได้ แต่สมองซีกซ้ายก็จะพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนการกระทำตลอดเวลาซึ่งอาจไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงเสมอไป แต่เราก็เชื่อเช่นนั้นไปแล้ว 

ยกตัวอย่างการทำงานของสมองที่หลอกเราในชีวิตจริงที่ใกล้ตัวก็คือ เวลาที่เราชอบใครคนหนึ่ง เราจะมองเขาดีไปหมด ถ้าเค้าเป็นคนไม่ดี คนรอบข้างที่หวังดีต่อเรา พูดอะไรเราก็ไม่เชื่อ มักจะหาเหตุผลมาเข้าข้าง เช่นเดียวกัน เวลาที่เราเกลียดใคร คนนั้นทำอะไรก็ดูผิดไปหมด นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาที่คนเราเชื่อต่างกัน เราถึงเอาเหตุผล ข้อเท็จจริง มาคัดคานกันไม่ได้ 

เพราะสมองที่สร้างความเชื่ออย่างลึกซึ้งนั้นคือสมองด้านอารมณ์ไม่ใช่เหตุผล จึงไม่มีประโยชน์ที่จะว่ากันด้วยเหตุผล เพราะก็จะเถียงกันไม่มีวันจบ ที่สำคัญต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลสนับสนุนให้ความเชื่อของตนเองถูกจนได้ เราจึงมีความขัดแย้งในทุกยุคทุกสมัย โดยเหตุผลไม่ช่วยอะไรเลย

การแบ่งกลุ่ม มีทั้งดีและร้าย โดยพวกร้าย จะรู้วิธีปลุกปั่นโดยใช้ความเชื่อ เกิดอารมณ์เกลียดชังฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นคนละพวกกับเรา และ สร้างกระแสให้คนส่วนใหญ่เชื่อตามๆ กัน จนเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยังไงเราเองก็หนีไม่พ้นการแบ่งกลุ่ม เพราะเราก็คือ มนุษย์คนหนึ่งที่หนีไม่พ้นสัญชาตญาณทางธรรมชาติ แต่การรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่หวังดีกับประเทศชาติ ให้ใหญ่กว่า ย่อมมีพลังให้กลุ่มที่เล็กกว่าเชื่อตามกระแสคนส่วนใหญ่ เพราะการเชื่อตามคนส่วนใหญ่คือ ธรรมชาติของมนุษย์นั่นเองค่ะ (เครดิต นพ. ชัชพล เกียรติขจรธาดา)