"สี จิ้นผิง" ดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 ผู้นำคนเก่าที่มาพร้อมคณะผู้มีอำนาจชุดใหม่
เป็นที่น่าจับตาอย่างมากถึงทิศทางนโยบายเศรษฐกิจต่อจากนี้ หลัง "สี จิ้นผิง" รับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีนต่อเป็นสมัยที่ 3 และมาพร้อมกับคณะผู้มีอำนาจชุดใหม่ ส่วนจะมีใคร และโปรไฟล์น่าสนใจขนาดไหน ติดตามอ่านได้จากบทความนี้
ผ่านพ้นไปแล้วกับการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งพรรคคอมมิวนิสต์ ครั้งที่ 20 โดย สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ยังคงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแกนนำหลักของพรรคและคณะกรรมการพรรค ในครั้งนี้ได้มีการเน้นย้ำในเรื่องการสร้างประเทศสังคมนิยมในยุคสมัยใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ส่งเสริมการฟื้นฟูชาติในทุกด้าน อาทิ การสนับสนุนความแข็งแกร่งของเทคโนโลยี และพัฒนาความสามารถในการแข่งขันผ่านการปรับโครงสร้าง ระบบต่างๆ อาทิ AI, Biotech, และ New Energy เป็นต้น เพื่อปรับระบบให้เข้าสู่ Digital Economy มากขึ้น ประกอบกับสร้างความมั่นคงของระบบการเงินปรับปรุงตลาดทุนให้ดียิ่งขึ้น และในครั้งนี้ได้มีการแต่งตั้ง 7 สมาชิก คณะกรรมการโปลิตบูโร ชุดใหม่ โดยมี 4 คนที่มีรายชื่อเข้ามาใหม่ และ 3 คนยังเป็นคณะกรรมการชุดเก่า รวมถึง สี จิ้นผิง โดยส่วนใหญ่ถือเป็นคนใกล้ตัวของ สี จิ้นผิง ทำให้ตลาดมองว่า อาจเป็นการรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ แต่ข้อดีคือ การสานต่อนโยบาย และการบังคับใช้นโยบายจะมีประสิทธิภาพ
8 ใน 24 คนของคณะกรรมการโปลิตบูโรจบวิศวะฯ และวิทยาศาสตร์
ที่มา: www.abc.net.au
ทำความรู้จักกับสมาชิกคณะกรรมการโปลิตบูโร (Standing Committee) ทั้ง 6 คน
- หลี่ เฉียง คาดว่าจะมานั่งตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อดีตเคยเป็นผู้ช่วยของ สี จิ้นผิง ในสมัยที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประจำมณฑลเจ้อเจียงในปี 2004 และ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประจำนครเซี่ยงไฮ้ รวมถึงเป็นผู้ที่ดูแลตลาด Star Market ซึ่งเป็นตลาดหุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดกลาง-เล็ก คล้ายคลึงกับตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐฯ และ สนับสนุนการเปิดโรงงาน Tesla ในเซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ในช่วงล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญทำให้นักลงทุนกังวลนโยบายด้าน COVID ของจีนจะยังไม่ผ่อนคลายโดยง่าย
- จ้าว เล่อจี้ เน้นปราบปรามและแก้ปัญหาคอร์รัปชัน และเป็นผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับวินัยของพรรค
- หวัง ฮู่หนิง นักทฤษฎีทางด้านการเมือง เป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านการต่างประเทศแก่ สี จิ้นผิง และได้รับฉายาขงเบ้งแห่งรัฐบาลจีน
- ไช่ ฉี เลขาธิการพรรคจากปักกิ่ง ผู้มีความใกล้ชิดกับ สี จิ้นผิง มานานกว่า 10 ปี และเป็นผู้ที่สื่อสารกับสังคมออนไลน์ ผ่านช่องทาง Weibo (Platform Social Media อันดับ 1 ของจีน)
- ติง เซวียเสียง ผู้ที่ถูกมองว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับ สี จิ้นผิง มากที่สุด จบด้านวิศวะกรรมฯ ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
- หลี่ ซี ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางเพื่อการตรวจสอบวินัย แทน จ้าว เล่อจี้
นอกจากนี้ อีกบุคคลที่น่าสนใจหนึ่งในสมาชิกโปลิตบูโร 24 ท่านคือ เหอ ลี่เฟิง ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทเข้ามาในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจแทน หลิว เหอ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน (National Development and Reform Commission หรือ NDRC) และเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนกับ สี จิ้นผิง เกี่ยวกับแผนการบรรลุการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2030
สิ่งที่ตลาดจับตาและจะเป็นปัจจัยที่หนุนเศรษฐกิจจีนในระยะข้างหน้า
- การกลับมาเปิดเศรษฐกิจของจีน
ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่ทราบไทม์ไลน์ที่แน่ชัดว่าจีนจะสามารถกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้เมื่อไร แต่อย่างน้อยการที่ทางการได้ออกมาพูดถึงนโยบาย Covid-zero และความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา การให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่านโยบาย Covid-zero ท้ายสุดแล้วจะมีจุดสิ้นสุด หลังจีนเผชิญปัญหาที่ประชนมีการขยายตัวของรายได้ที่ลดลง ปัญหาการว่างงานในผู้เยาว์ที่เพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นนักวิเคราะห์คาดว่า จีนจะสามารถกลับมาเปิดเศรษฐกิจเร็วที่สุดช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ 1. การฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง 2. วัคซีน MRNA ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน 3. หากมีสัญญาณบวกในการเปิดประเทศ คาดว่าจะเริ่มเห็น การลดระยะเวลาการกักตัว และการเพิ่มเที่ยวบินเข้าไปในจีน
- ความยืดหยุ่นของนโบายภาคอสังหาริมทรัพย์
ช่วงปีที่ผ่านๆ มาในทุกๆ ครั้งของแถลงการณ์ จาก สี จิ้นผิง จะพูดถึง "House are for living, not speculation" หรือบ้านควรจะใช้สำหรับการอยู่อาศัย มิใช่สำหรับการเก็งกำไร อย่างไรก็ดี ครั้งนี้ใน keynote report ยังคงพูดถึงประเด็นนี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในระยะอันใกล้นี้ และจะมีการผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัว โดยช่วงที่ผ่านมายอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งขัดแย้งกับยอดขายบ้านมือสองที่ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นใจของการส่งมอบที่อยู่อาศัยและมุมมองที่เป็นลบจาก developer (บริษัทสร้างบ้าน) อย่างไรก็ดี มองว่า การสร้างสภาพคล่องยังคงมีความจำเป็น อาทิ การขยายการค้ำประกันหุ้นกู้ และการขยายสินเชื่อและเงินทุน เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ระยะข้างหน้า นักลงทุนกลับมาจับตาการประชุม Central Economic Work Conference (CEWC) ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคมในปีนี้ ซึ่งจะมีรายละเอียดชัดเจนมากขึ้นต่อทิศทางนโยบายเศรษฐกิจระยะข้างหน้า จากกลุ่มสมาชิกโปลิตบูโรชุดใหม่ ด้านนักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ประเมินว่าปีหน้าการขยายตัวของเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตได้ในระดับที่เกินกว่า 5% โดยมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังในเรื่องการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ และปัญหาบ้านที่คลี่คลาย เป็นต้น
ที่มา : Morgan Stanley, www.abc.net.au, UobKayhian
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds