จีนฟื้นจริงไหม? สำรวจตัวเลขกิจกรรมท่องเที่ยวช่วง "เทศกาลตรุษจีน"
หลังจากที่จีนต้องดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้นโยบาย zero-Covid มานาน จนส่งผลทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ทางการจีนจำเป็นต้องเปิดประเทศหลังมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้ และช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แต่จะฟื้นตัวได้จริงหรือไม่ ต้องติดตาม
เทศกาลตรุษจีน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 – 27 มกราคม 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์สำคัญที่นักลงทุนต้องจับตา เนื่องจากโดยปกติแล้วชาวจีนจะนิยมกลับไปสังสรรค์กับครอบครัว หรือเดินทางท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ จะเห็นได้ว่าเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่จีนต้องดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้นโยบาย zero-Covid ของทางการจีน ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ต่างๆ กลับมาชะลอตัว และตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา จีนกลับมาประกาศเปิดประเทศ และเลือกที่จะใช้แนวทางการอยู่ร่วมกับโรคระบาดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ แทน ขณะที่การเดินทางผ่านช่องทางต่างๆ เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ยังคงต้องเฝ้าติดตามถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงว่าจะกลับมาเร่งตัวขึ้นมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ เริ่มมีหลายสำนักมองว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงเทียบกับช่วงก่อนหน้า เนื่องจาก 80% ของคนในประเทศได้มีการติดเชื้อไปแล้วจากจำนวนประชากรรวมทั้งสิ้นที่ 1.41 พันล้านราย (ข้อมูล ณ สิ้นปี 2565)
จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงปรับตัวลงกว่า 70% จากจุดสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม
ศูนย์ควบคุมโรคและป้องกันโรคของจีน รายงานว่า ผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงปรับตัวลงกว่า 70% จากจุดสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม และข้อมูล ณ วันที่ 23 มกราคม 2566 รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,000 ราย อยู่ที่ 896 ราย ซึ่งปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในช่วงเดือนมกราคมที่ 4,273 ราย ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงนั้นปรับตัวลงสู่ระดับ 36,000 ราย หรือคิดเป็นประมาณ 72% ลดลงจากจุดสูงสุดที่ระดับ 128,000 ราย
การเดินทางทางอากาศเข้าสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วง Pre-Covid
อิงจากข้อมูลของทาง Bloomberg สายการบินในจีนกลับมาให้บริการตามปกติแล้วถึง 99.8% เมื่อเทียบกับช่วงมกราคมของปี 2019 และหากนับจำนวนที่นั่งของผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินในจีน ปัจจุบันก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โดยจำนวนที่นั่งของการเดินทางกับสายการบินภายในประเทศสูงกว่าช่วงปี 2019 ที่ 9.5% อย่างไรก็ดี ด้านการเดินทางระหว่างประเทศยังไม่ได้ฟื้นตัวดีนัก และต่ำกว่าช่วงปี 2019 ประมาณ 90% ทั้งนี้ การเดินทางระหว่างประเทศคาดจะฟื้นตัวขึ้นภายหลัง เทศกาลตรุษจีน ด้านทางการจีนมองว่า การแพร่ระบาดในจีนได้ผ่านช่วงที่สูงสุดไปแล้ว หลังเศรษฐกิจจีนขยายตัวที่ 3% ในปี 2022 ซึ่งเป็นการขยายตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1976 ขณะที่นาย Liu He รองนายกฯ จีน ออกมาแถลงในงาน World Economic Forum ถึงมุมมองต่อ เศรษฐกิจจีน โดยมองว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนมีการแพร่ระบาดหลังจากที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาผ่านระดับสูงสุด ซึ่งเป็นในทิศทางเดียวกับรองนายกฯ อีกคน นาง Sun Chunlan
การเดินทางท่องเที่ยวในจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้เพิ่มมากกว่าปี 2022
Bloomberg รายงานถึงจำนวนทริปท่องเที่ยวของชาวจีนในช่วง 4 วันแรกของ เทศกาลตรุษจีน ที่นับรวมการเดินทาง ทางรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน และเรือ อยู่ที่ 95.9 ล้านทริป หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 24 ล้าน ทริปต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2022 ที่ 18.6 ล้านทริปต่อวัน และในส่วนของยอดขายบัตรชมภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวเลขที่สะท้อนถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวอยู่ที่ 3.6 พันล้านหยวน สูงกว่าปีที่แล้วที่อยู่ที่ 3.5 พันล้านหยวน และสูงกว่าช่วงปี 2019 หรือช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสที่ 3.4 พันล้านหยวน ในขณะที่ยอดจองโรงแรมในประเทศนั้นก็เพิ่มขึ้นสูงกว่าช่วงปี 2019 เช่นกัน ด้านการท่องเที่ยวนอกประเทศแม้จะยังไม่ได้มีการฟื้นตัวที่เด่นชัดเมื่อเทียบกับในประเทศ แต่หากมาดูในส่วนยอดจองตั๋วเครื่องบินเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วก็กลับมาเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า โดยประเทศที่ชาวจีนนิยมไปมากที่สุดคือ ฮ่องกง มาเก๊า ไทย และสิงคโปร์
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอนุญาตให้มีการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ
เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว อนุญาตให้สามารถท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ หรือกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งครอบคลุมใน 20 ประเทศ และรวมไปถึงไทย โดยสามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือ เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ยังคงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการป้องกันการแพร่ระบาดของทางรัฐบาลและประเทศปลายทางอย่างเคร่งครัด
โดยภาพรวมหลังจากที่จีนกลับมาเปิดประเทศนั้น การเดินทางผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะการเดินทางภายในประเทศ ทั้งทาง รถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน และเรือ กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่หนุนเศรษฐกิจในประเทศให้กลับมาเติบโตได้ดีในปีนี้ ขณะที่ด้าน Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้อยู่ที่ 5.5% จากเดิมที่มองไว้ที่ 5.2% แต่สิ่งที่ต้องระวังเช่นกันคือ กรณีที่อุปสงค์ในฝั่งจีนกลับมาฟื้นตัวเร็วกว่าที่ตลาดคาด อาจจะเป็นปัจจัยลบที่กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อ อัตราเงินเฟ้อ กลับมาเร่งตัวขึ้นได้อีก และจะทำให้ธนาคารกลางจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินเข้มงวดกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ที่มา : Bloomberg, Caixin , CNBC, Goldman Sachs
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมา และพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสม และรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยง และเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0-2633-6000 กด 4, 0-2080-6000 กด 4 และ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds