เบื้องหลัง 'ถุงมือต้านคัน' นวัตกรรมสุดเจ๋ง ช่วยผู้ป่วยโรคผื่นแพ้ผิวหนัง

เรื่องราวของ "ปรียานันท์ อธิการบดี" เริ่มต้นในรั้วโรงเรียนประถมที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นเธอมีแผลเต็มตัวจนเพื่อนๆ ล้อว่าเป็น "ตัวประหลาดติดเชื้อ" ประจำห้อง โดนรังเกียจ ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ปรียานันท์จึงรู้ซึ้งตั้งแต่เด็กๆ เลยว่าการเป็น โรคผื่นแพ้ผิวหนัง มันทรมานแค่ไหน ไม่ใช่แค่ผิวที่เสียไป แต่ความมั่นใจก็พังไม่เหลือ การที่ต้องทนทั้งความเจ็บปวดทางกายและใจ ทำให้เธอรู้สึกเหงาและแปลกแยก เหมือนไม่มีใครเข้าใจ แต่ท่ามกลางความทุกข์นั้น เธอก็ค้นพบพลังในตัวเอง

ปรียานันท์รู้ว่าถ้าไม่สู้เพื่อตัวเอง ก็คงไม่มีใครมาสู้แทน เธอจึงพยายามแยกให้ออกว่า สภาพผิวกับความสุขเป็นคนละเรื่องกัน เธอเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า ชีวิตที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าผิวจะเป็นอย่างไร จากนั้นก็ตั้งองค์กร Embracing Eczema ขึ้นมา เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ทำงานเพื่อลดการรังเกียจผู้ป่วยโรคผื่นแพ้ผิวหนัง สร้างความเข้าใจ และให้กำลังใจคนที่เป็นโรคนี้

รอยแผลเป็นที่เคยทำให้อาย กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง บอกเล่าการเดินทางจากเด็กที่ไม่มั่นใจและเจ็บปวด มาเป็นผู้ใหญ่ที่ยอมรับและรักตัวเองได้

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นตอนที่ปรียานันท์พยายามแก้ปัญหาการเกาตอนนอนหลับ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนเป็น โรคผื่นแพ้ผิวหนัง เธอลองใช้ถุงมือหมอหลายแบบ แต่ไม่ได้ผล จนวันหนึ่งระหว่างเรียนมวย เธอสังเกตว่าถุงมือมวยที่หนาๆ กลมๆ ช่วยกันไม่ให้เกาผิวที่คันได้ เธอเลยเกิดไอเดียบ้าๆ ลองเอาถุงมือมาใส่นอนดู ปรากฏว่าได้ผลเกินคาด วันรุ่งขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบนานที่ตื่นมาแล้วไม่มีเลือดออกตามแขน แต่ถุงมือมวยก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ดีพอ มันทั้งร้อนทั้งอึดอัด

พอเห็นว่าในท้องตลาดยังไม่มีถุงมือที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับคนเป็นโรคผื่นแพ้ผิวหนัง ปรียานันท์เลยคิดทำขึ้นมาเอง เธอออกแบบถุงมือพิเศษที่ทำจากขวดน้ำเกลือเหลือใช้ ข้างในบุด้วยผ้าซาตินนุ่มๆ ใส่สบาย มีเวลโครเทปติดให้แน่นพอดี ขวดน้ำเกลือที่ใช้ก็ขอมาจากโรงพยาบาลชลประทาน เป็นการช่วยลดขยะไปในตัว

ด้วยความตั้งใจอยากช่วยคนอื่นที่เป็นโรคเดียวกัน ตอนนี้องค์กรของเธอได้แจกถุงมือไปแล้วกว่า 100 อัน ให้กับโรงพยาบาลรัฐและมูลนิธิต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นทางออกง่าย ๆ สำหรับปัญหาที่เคยดูเหมือนแก้ไม่ได้

แต่ Embracing Eczema ไม่ได้มีดีแค่เรื่องถุงมือ องค์กรนี้ยังทำวิจัยเกี่ยวกับ โรคผื่นแพ้ผิวหนัง เพื่อให้ความรู้คนไข้เรื่องการรักษาที่ได้ผล และแก้ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการดูแลผิว พวกเขารู้ว่าการพึ่งสเตียรอยด์มากเกินไปเป็นอันตราย เลยพยายามแนะนำวิธีรักษาที่ปลอดภัยกว่า ผ่านการจัดเวิร์กช็อป แชร์ประสบการณ์ และสร้างชุมชนที่เข้าใจและให้กำลังใจกัน แทนที่จะรังเกียจกัน

ปรียานันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เราเลือกได้ว่าจะอยู่อย่างไม่มั่นใจหรือจะภูมิใจในผิวของตัวเอง องค์กรไม่แสวงผลกำไรของเธอเป็นพยานถึงความตั้งใจและทุ่มเทที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคผื่นแพ้ผิวหนังผ่านพ้นทั้งความทรมานทางกายและใจ จากปัญหาส่วนตัว กลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ช่วยให้คนที่เจอปัญหาแบบเดียวกับเธอได้ลุกขึ้นมาสู้และเห็นคุณค่าในตัวเอง

ทุกวันนี้ ปรียานันท์ยังคงนำองค์กรของเธอต่อไป เปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งของตัวเองและคนอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้พวกเขาเจอความเข้มแข็งและความสวยงามในแบบของตัวเอง