สวทช. จับมือ ส.อ.ท. และกรมโรงงานฯ เพิ่มมูลค่าขยะ ให้เป็นวัตถุดิบใหม่
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามความร่วมมือด้านการวิจัย และพัฒนาการผลักดันเพิ่มมูลค่า กากอุตสาหกรรมให้เป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่
โดยมีมาตรฐานการควบคุมที่เหมาะสมทั้งในเชิงวิชาการ ความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการสิ้นสุดการเป็นของเสีย (End of Waste) ต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง และพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์
ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. โดยทีมนักวิจัยได้สั่งสมประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งการวิจัยการเพิ่มมูลค่ากากของเสียในภาคอุตสาหกรรม และภาคการเกษตร มีผลงานวิจัย และผลิตภัณฑ์ที่มาจากการเพิ่มมูลค่ากากอุตสาหกรรมที่หลากหลาย และมีมูลค่าสูง พร้อมทีมวิจัยในการร่วม Proof Technology และการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเปรียบเทียบระหว่างการนำกากของเสียไปทิ้ง ฝังกลบ เผา กับการ นำมาเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการเป็นวัตถุดิบสำหรับอีกอุตสาหกรรม ซึ่งความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานครั้งนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมกันผลักดันการวิจัยและพัฒนาไปสู่เป้าหมายการใช้ประโยชน์ และเป็นหนึ่งในแนวคิดเศรษฐกิจ หมุนเวียน (Circular Economy) ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG
ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันให้เกิดความร่วมมือครั้งนี้ เห็นความสำคัญในการผลักดันกฎระเบียบ End of Waste ในประเทศไทย ซึ่งการดำเนินการกล่าว สอดรับกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ให้ความสำคัญในการยกระดับภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากร เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสนับสนุนสังคมคาร์บอนต่ำ โดยมุ่งเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมที่มี ศักยภาพ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ชีววัตถุ และ แร่ธาตุพื้นฐาน ควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็ง และกระจายรายได้สู่ชุมชน
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคเอกชน และผู้ประกอบการ ที่มีสมาชิกทั้งอุตสาหกรรมผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste generator) อุตสาหกรรมรับขนส่งของเสีย (waste transporter) และอุตสาหกรรมผู้รับบำบัด กำจัดของเสีย (Waste processor) และให้ความสำคัญในการนำแนวคิด การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนมากำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงาน ส.อ.ท. จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน
ของเสีย หรือ Circular Material Hub (CMH) สำหรับเป็นช่องทางการนำของเสียหรือวัสดุไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงานผ่านสตาร์ตอัป (Startup) โดยอาศัยแนวคิดการเปลี่ยนของเสียจากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปสู่การเป็นวัตถุดิบหรือ Materials ให้อีกอุตสาหกรรมหนึ่ง สอดคล้องกับหลักการ End of Waste รวมถึงมีแหล่งทุนอินโนเวชั่นวัน (Innovation one) ที่ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำหรับให้ทุน ในธีม BCG และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถสนับสนุนในการทำงานวิจัย ร่วมกันเพื่อผลักดันไปสู่ End of waste ได้อย่างรวดเร็ว และเกิดความคล่องตัว ดังนั้น ส.อ.ท. จึงเป็นส่วนสำคัญในการร่วม ผลักดัน End of waste ของประเทศไทยได้ในทุกห่วงโซ่อุปทานได้อย่างยั่งยืน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์