การบริโภคดีต่อโลกได้ 'SX FOOD FESTIVAL 2023' ดึงสตรีทฟู้ดไทย ปลุกความยั่งยืน

โจทย์ใหญ่งาน SX2023 คือต้องการทำให้ผู้บริโภคทุกภาคส่วน “ลงมือปฏิบัติ” ทำเพื่อความยั่งยืนของโลกให้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่ตระหนักรู้เท่านั้น เพราะทุกคนมีส่วนในการ “บริโภค” ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

แม้งาน SX2023 จะมีหลากหลายโซนบอกเล่าเรื่องราวมิติต่างๆเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่หนึ่งใน “แม่เหล็ก” ดึงคนให้เข้ามาร่วมงาน และ “สนใจ” เรื่องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมคือ “อาหาร” ภายใต้ชื่อ “SX FOOD FESTIVAL 2023” มาพร้อมกับธีมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสน่ห์อาหารริมทางของประเทศไทย สู่ THAI STREET FOOD MUSEUM : ไทยสตรีทฟู้ด ไทยสตรีทกู้ด ดีต่อไทย ดีต่อโลก โดยเนรมิตพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) ภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ ให้กลายเป็นดินแดนแห่งความอร่อยที่ยั่งยืน ด้วยเมนูอาหารกู้โลกสารพัด จากเหล่าเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง ไอรอนเชฟ ท็อปเชฟ มาสเตอร์เชฟมากันครบ แถมยังมีร้านอาหารเด็ดดังมากมายให้ได้ลิ้มลองความอร่อยกันเต็มที่

ต้องใจ ธนะชานันท์ ผู้อำนวยการคณะจัดงาน Sustainability Expo 2023 หรือ SX2023 ให้มุมมองว่า “การกินก็ดีต่อโลกได้” เพียงผู้บริโภคทุกคนเริ่มต้นที่ตัวเองด้วยการรับประทานหรือกินอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารที่มาคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำ อาหารที่ใช้ “บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก” หากจะเป็นพลาสติกก็นำมารีไซเคิลได้ การจัดการของเหลือ ของเสียไปรีไซเคิล ทำเป็นปุ๋ย เป็นต้น

“กินดี ทิ้งดี กินเพื่อความยั่งยืน ก็ดีต่อโลกได้”

ทั้งนี้ การบริหารจัดการด้านอาหารเพื่อความยั่งยืน มี 2 มิติที่น่าสนใจ คือ การสูญเสียอาหาร(Food loss) คือก่อนนำมาบริโภค การบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง สามารถจัดการให้มีประสิทธิภาพลดการสูญเสียได้ แม้กระทั่งการจำหน่ายในช่องทางต่างๆ อาหาร วัตถุดิบที่ไม่สวย นำนมาลดราคาได้

“ไม่ใช่เอะอะ..ก็ทิ้งหมด ถ้าตั้งใจทำสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ต้นจะลด Food loss ได้”

อีกมิติคือขยะอาหาร(Food waste) ผู้ประกอบการทำให้อาหารเหลือ หรือขยะอาหารมีน้อยที่สุดได้ เช่น ร้านโออิชิ ที่ใช้วัตถุดิบแซลมอน หนังนำไปทอดกรอบเป็นเมนูใหม่ๆ ร้านเคเอฟซี น้ำมันพืชจากการทอดไก่นำไปขายต่อเพื่อใช้ทำน้ำมันไบโอดีเซล ร้านอาหารบางแบรนด์ของเครือไทยเบฟเวอเรจ ที่เป็นร้านเดี่ยวหรือ สแตนอะโลน มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เป็นต้น

ด้านไฮไลต์ของ SX FOOD FESTIVAL 2023 ร้านอร่อยนั้นมีเพิ่มขึ้นจาก 100 ร้านปีก่อน มาเป็น 160 ร้านในปีนี้ “ที่นั่ง” ซึ่งเคยเป็นบทเรียนจากงานครั้งก่อน ปีนี้ได้เพิ่มพื้นที่นั่งรับประทานอาหารหลากหลายจุดและจำนวนมากขึ้น

นอกจาก “เชฟดัง” มาออกร้านแล้ว อาหารกู้โลกเป็นสิ่งที่ต้องกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารน้ำตาล ไขมัน โซเดียมต่ำ เนื้อสัตว์จากพืชหรือแพลนท์เบส โปรตีนจากแมลง เป็นต้น

กินอร่อยแล้ว การทิ้งขยะควรปฏิบัติให้ถูกต้อง “แยก” พลาสติก กระดาษ เศษอาหารลงถังให้เป๊ะ! เพราะทุกอย่างนำไปรีไซเคิล เศษอาหารทำปุ๋ยเพื่อส่งต่อให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ได้ และยังมีโซน ให้ปั่นจักรยานสร้าง “พลังงานสะอาด” ด้วย

“ธีมสตรีทฟู้ด เพราะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ทำสิ่งดีๆสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจมาหมาย อาหารสตรีทฟู้ดหลายเมนูยังเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เช่น ส้มตำ ยำ ที่คาร์บอนฟุตปรินท์ต่ำ เพราะไม่ต้องใช้ความร้อนในการหุงต้ม”

ปีนี้กิจกรรมที่หายไปคือการบริจาคอาหารให้หน่วยงานต่างๆ มาเป็นให้ร้านค้าที่มาออกงานได้ “บริจาคเงินตามศรัทธา” เพื่อนำไปมอบให้กับองค์กรต่างๆแทน

“ภาพรวมงาน SX2023 เราตั้งเป้าคนเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 3.2 แสนคน โดยอาหารเป็นหนึ่งในแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย”