สภาอุตสาหกรรมขับเคลื่อนนโยบาย FTI เปลี่ยนความกดดันเป็นโอกาสทางธุรกิจ
สภาอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนนโยบาย FTI เปลี่ยนความกดดันเป็นโอกาสทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดสร้างความเข้มแข็ง และลดความเหลื่อมล้ำ สร้างธุรกิจใหม่
ดร.สวนิตย์ บุญญาสุวัฒน์ คณะทำงาน BCG Model สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในงาน “SUSTAINABILITY FORUM 2024” ในหัวข้อ “ BCG MODEL: Key Success to Sustainable” จัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ” วันที่ 14 ธ.ค.2566 ว่า นโยบายขับเคลื่อน ส.อ.ท. วิสัยทัศนสร้างความเข้มแข็ง โดย FTI ขับเคลื่อน BCG สู่เป้าหมาย SDGs จะเปลี่ยนความกดดันทางสิ่งแวดล้อมไปสู่ “เป็นโอกาสทางธุรกิจ”
โดยแบ่งเป็น 1.Bio Economy เพื่อต่อยอดสร้างความเข้มแข็ง และลดความเหลื่อมล้ำ สร้างธุรกิจใหม่ อย่าง
2.Circular Economy เพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากวัสดุเหลือใช้ให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
3.Green Economy เศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล และยั่งยืน
โดย ONE FTI ซึ่งเป็นนโยบายการหลอมรวมทุกภาคส่วนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยทุกภาคส่วนจะร่วมกันทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทยเพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม
ทั้งนี้ความพยายามของเอกชน และรัฐบาลเริ่มเห็นผลมากขึ้น ในขณะเดียวกันกติกาในด้านของความยั่งยืนนั้นเกิดขึ้นภายใน 1-2 ปี และเร็วมาก ซึ่งการปรับปรุงพัฒนา และปกป้องธุรกิจของตนเองนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากถ้าไม่มีการปรับตัวโอกาสทางธุรกิจจะหายหมด
ดังนั้นความท้าทายในอุตสาหกรรมไทยเป็นเรื่องของต้นทุน ซึ่งสิ่งแวดล้อมมีต้นทุนที่สูงมาก ผู้ประกอบการในหลายๆ ที่ต้องมีการปรับตัวให้มากขึ้นเพื่อตอบรับเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไป แม้ว่าในปัจจุบันก็มีเรื่องของกองทุนเพื่อความยั่งยืนมาช่วยเหลือนักลงทุนต่างๆ ในการประกอบธุรกิจเพื่อความยั่งยืน แต่ส่วนสำคัญมากที่สุดที่จะก้าวสู่ความยั่งยืนได้คือ เรื่องของความเข้าใจของคนเป็นส่วนสำคัญที่สุด
การเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นธรรมจะกระทบต่อภาคสังคมแค่ไหนการช่วยเหลือ และสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งในระยะนี้เป็นระยะของการตั้งตัวไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่ๆ รวมถึง SME ประเทศไทย ถึงจะเข้าการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์