BDMS คว้าดัชนีความยั่งยืนโลก DJSI World 2023 ด้วยคะแนนสูงสุด กลุ่ม Healthcare

"ผู้นำบริการด้านสุขภาพที่ยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีบนวิถีแห่งความยั่งยืน" คือพันธกิจสำคัญของ BDMS ที่มุ่งสู่การเป็น "Medical Sustainability" ด้วยการดูแลพัฒนาความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งห่วงโซ่อุปทานทางการแพทย์ ดูแลด้านสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมในวิชาชีพ ลดการปลดปล่อยมลพิษ มุ่งสู่ Net Zero และยกระดับมาตรฐานการบริการ เพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

หลังจาก BDMS ก้าวสู่ผู้นำด้านความยั่งยืนของโลก ปี 2023 ในกลุ่มบริการทางการแพทย์ (Healthcare Providers & Services) จากการประเมินของ DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) เป็นปีแรก และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง "มิติด้านสังคม" ของกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ จากการประเมินของ S&P Global ทั้งนี้ ดัชนี DJSI เน้นการประเมินความยั่งยืนของธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ การรักษาสิ่งแวดล้อม (E) การดูแลสังคม (S) และการกำกับดูแลบนหลักธรรมาภิบาล (G) หรือ ESG สอดรับกับหลักดำเนินธุรกิจที่ BDMS ให้ความสำคัญมาตลอด

แห่งแรกของกลุ่มธุรกิจ

พญ. ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานผู้บริหารอาวุโส กลุ่ม 1 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่บริษัทฯ จะเติบโตอย่างยั่งยืนต้องมีทิศทางและวิถีการทำงานที่ไม่ใช่แค่ระยะเวลา 3 - 5 ปี แต่ความยั่งยืนขององค์กรต้องมองเกิน 10 ปีขึ้นไป หลังจากที่บริษัทฯ ผ่านดัชนีความยั่งยืนของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แล้ว การก้าวสู่ดัชนีความยั่งยืนระดับโลก หรือ DJSI จึงเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทฯ "จะต้องไป ไม่ไปไม่ได้" โดยมีความท้าทายอยู่ตรงที่ไม่มีบริษัทด้าน Healthcare ของประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิกดำเนินการเรื่องนี้มาก่อน 

เมื่อตัดสินใจเป็นผู้นำขับเคลื่อน สิ่งสำคัญจะต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับบุคลากรทั้งหมด ถึงความมุ่งมั่นและเป้าหมายของการนำพาองค์กรก้าวสู่การเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน โดย BDMS นั้น มาจากคำว่า Beyond excellence, Developmental innovation, Meaningful sustainability engagement และ Social contribution

"ไม่ใช้วิธีการ Top Down หรือสั่งการลงมา แต่ต้องทำพร้อมกัน เพื่อให้เกิดความหลากหลายในการจัดการ จนนำไปสู่ความยั่งยืนที่แท้จริง" พญ.ปรมาภรณ์ กล่าว

พญ.ปรมาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า เราเริ่มดำเนินการเมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยการรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนขององค์กรกว่า 50 โรงพยาบาลในเครือ BDMS โรงงานน้ำเกลือ โรงงานผลิตยา และร้านขายยา พบว่า มีพื้นฐานเรื่องความยั่งยืนในมิติ ESG อยู่แล้วบางส่วน ก่อนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovation) มาใช้พัฒนาเพิ่มเติมทั้ง 3 มิติ  

มิติด้านสังคมด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง

พญ.ปรมาภรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเริ่มในเรื่องที่ถนัดคือ "มิติสังคม" (Social) ในการบริหารทรัพยากรบุคคล โดยมุ่งส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี มีความสุขในการทำงาน และการดำเนินการเคารพสิทธิมนุษยชน (Human Rights) รอบด้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รวมถึงเปิดพื้นที่เพื่อกระตุ้นให้พนักงานทุกระดับได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ผ่านเวทีการประกวด BDMS Awards ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี และในปี 2567 มีโครงการเข้าร่วมจากทุกกลุ่มธุรกิจมากกว่า 700 โครงการ

นอกจากนี้ ยังมีการขยายโอกาสในการเข้าถึงสาธารณสุขที่มีคุณภาพ โดยร่วมกับมูลนิธิเวชดุสิตฯ จัดโครงการ "BDMS อบรมการช่วยชีวิต" แก่ผู้มีส่วนได้เสียครอบคลุมทั่วประเทศไทยมากกว่า 60,000 ราย "โครงการอิ่มบุญ" ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพและมอบโอกาสเข้าถึงการศึกษา "โครงการผ่าเข่าในกลุ่มผู้ป่วยยากไร้" มากกว่า 170 ข้าง "โครงการเวชดุสิต ปลูกต้นกล้า สร้างพยาบาล" สนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพยาบาล มากกว่า 102 ทุน และการใช้ Telemental Health ดูแลสุขภาพใจ นักศึกษาด้านสุขภาพ  

"การขับเคลื่อนด้านสังคม และ well-being ดูแลสุขภาพของบุคลากร เพื่อนบ้าน ชุมชนหรือหน่วยงานที่อาจเข้าไม่ถึงการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของความยั่งยืน และเป็นงานตรงที่ BDMS ถนัด โดยดำเนินการครบ 100 % ขององค์กรในเครือ และเป็นมิติที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ จากการประเมินของ S&P Global"

BDMS Green Healthcare

ในส่วนของมิติด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 บริษัทฯ มีการกำหนดเกณฑ์ BDMS Green Healthcare แบ่งมาตรฐานเป็น 3 ระดับ ได้แก่ แพลตตินัม โกลด์ และซิลเวอร์ ขับเคลื่อนเรื่อง พลังงานสีเขียว ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโรงพยาบาล 21 แห่งจากกว่า 50 แห่งในเครือ เนื่องจากบางแห่งมีข้อจำกัดทำให้ติดตั้งไม่ได้ เช่น ตึกมีระดับต่ำ หรือตึกข้างเคียงสูง เป็นต้น และบริหารจัดการเรื่องขยะ (waste management) ทั้งขยะติดเชื้อและขยะรีไซเคิล ในปี 2567 คาดว่า 3 ใน 4 ขององค์กรจะผ่านมาตรฐานนี้ 

พัฒนานวัตกรรม เพิ่มการเข้าถึง 

ส่วนของภาคธุรกิจ มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความคาดหวังของกลุ่มผู้รับบริการที่มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ตามหลักการพัฒนาธุรกิจสุขภาพอย่างยั่งยืน อาทิ BeDee Telehealth Platform เพื่อบริการการแพทย์และดูแลสุขภาพอย่างทันท่วงที 24 ชั่วโมง 7 วัน โดยผู้เชี่ยวชาญจาก BDMS เสมือนการเข้ารับบริการในโรงพยาบาล เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และนวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมด้วยเทคนิคใหม่แบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ (Direct Anterior Approach Hip Replacement หรือ DAA) ส่งคืนประโยชน์ด้านสุขภาพแก่ประชาชนชาวไทย ลดระยะเวลาวันนอนพักรักษาตัว นอกจากนี้ยังได้มีการอบรมความรู้นวัตกรรมการผ่าตัดที่ได้รับการพัฒนาจนเป็นที่ยอมรับทั้งมหาวิทยาลัยในไทยและต่างประเทศกว่า 20 แห่ง

กุญแจสำคัญของความสำเร็จ 

"เราทำจริง ทำมานาน ทุกคนรับทราบ อยากทำ และทำพร้อมกัน" เป็นหัวใจสำคัญที่ พญ.ปรมาภรณ์ มองว่า นำมาสู่ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ซึ่งในการสร้างแรงจูงใจให้กับบุคลากรเพื่อร่วมกันดำเนินการนั้น จะต้องแสดงให้เห็นว่า "ทำเพื่ออะไร" เพื่อให้องค์กรเติบโตยั่งยืน เพื่อตัวเองในการได้ประโยชน์เรื่อง well-being สามารถมอบให้คนที่อยู่รอบข้าง ได้ความรู้ใหม่ๆ และทำสิ่งดีๆ เพื่อโลก

"เหนือสิ่งอื่นใด อยากเชิญชวนและเป็นแรงสนับสนุนให้บริษัทในกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (Healthcare Providers & Services) เหมือนกัน มาขับเคลื่อนสู่ดัชนีความยั่งยืนระดับโลกด้วยกัน เนื่องจากจะสร้าง Impact ได้มากขึ้น และสร้าง Innovation ใหม่ๆ สำหรับธุรกิจสายสุขภาพ"   

แผนพัฒนาสู่ความยั่งยืนปี 2024 - 2026

สำหรับเป้าหมายในปี 2567 "พญ.ปรมาภรณ์" กล่าวว่า จะโฟกัสที่โรงงานผลิตน้ำเกลือ ทั้งเรื่องพลังงานสีเขียว รีไซเคิล และ upcycling ภาชนะบรรจุน้ำเกลือ ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ผลิตเป็นชุด PPE

"ยังมี pain point ในกลุ่มธุรกิจสุขภาพอยู่หลายเรื่อง เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผ่าตัด โดยมีเป้าหมายลดในเรื่องนี้ แต่จะต้องเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด จึงต้องใช้องค์ความรู้ใหม่ในการเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานของโลก ปัจจุบันมีทีมกำลังศึกษาและมีนวัตกรรมมานำเสนอให้พิจารณา น่าจะใช้เวลาเพราะไม่รู้ว่าความสำเร็จจะเกิดเร็วหรือช้าหรือเกิดนวัตกรรมได้หรือไม่" 

สำหรับการดำเนินงานในปี 2024 - 2026 BDMS มุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนทั้ง 3 มิติ ดังนี้

• ด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ พลังงานหมุนเวียน มุ่งสู่การพัฒนา เศรษฐกิจหมุนเวียน เน้นหลักด้านจัดการขยะจากโรงพยาบาล มุ่งพัฒนาโรงงานยา และโรงงานน้ำเกลือของธุรกิจในเครือ ห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญของการบริการการแพทย์ เพื่อพัฒนาเป็นระบบอุตสาหกรรมสีเขียว
• ด้านสังคม ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน ทั้งบุคลากรภายใน พันธมิตรธุรกิจ และชุมชนโดยรอบ เพื่อให้ความเป็นอยู่ที่ดี สามารถเข้าถึงบริการการแพทย์และการดูแลสุขภาพได้อย่างเสมอภาค ผ่านโครงการอบรมทักษะการช่วยชีวิต การใช้ Telemental Health ดูแลสุขภาพใจ เน้นกลุ่มสถาบันการศึกษา คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติและกำลังสำคัญในห่วงโซ่อุปทานสำหรับธุรกิจการแพทย์
• ด้านเศรษฐกิจ มุ่งกระตุ้นการพัฒนานวัตกรรม ส่งเสริมการวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ ควบคู่กับการร่วมมือกับคู่ค้า เพื่อการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานสีเขียว พัฒนากระบวนการทำงาน ลดการเบียดเบียนต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางธุรกิจ