‘ญี่ปุ่น’ ประกาศ ‘ห้ามโยนเหรียญ’ ลงน้ำ อาจทำให้คนโชคดี แต่ทำลายพืชน้ำ

‘ญี่ปุ่น’ ประกาศ ‘ห้ามโยนเหรียญ’ ลงน้ำ อาจทำให้คนโชคดี แต่ทำลายพืชน้ำ

แม้จะมีคำเตือน แต่นักท่องเที่ยวยังคง “โยนเหรียญ” ลงไปในบ่อน้ำ เพราะคิดว่าจะทำให้ “โชคดี” แต่ความจริงแล้ว มันกำลังเป็นภัยคุกคามต่อพืชน้ำ

นักท่องเที่ยวในหลายประเทศมีความเชื่อว่า หากโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำของสถานที่ท่องเที่ยวแล้วจะทำให้โชคดี สำหรับบางทีที่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น น้ำพุเทรวี ในกรุงโรม อิตาลี ที่คนมักจะมาขอพรด้านความรัก ก็คงจะไม่อันตรายมากนัก 

แต่สำหรับบ่อน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่าง “โอชิโนะฮักไก” หมู่บ้านน้ำใสแห่งภูเขาไฟฟูจิ ของญี่ปุ่นแล้ว เหรียญที่ผู้คนโยนลงไปถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศของแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งนี้

โอชิโนะฮักไก หรือ หมู่บ้านน้ำใส เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ บริเวณทะเลสาบยามานาคาโกะ ในจังหวัดยามานาชิ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้จะมีบ่อน้ำใสสะอาดอยู่ด้วยกัน 8 บ่อ โดยเชื่อว่าน้ำในบ่อเป็นแหล่งน้ำสะอาดอันศักดิ์สิทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิ และได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี 2556

ด้วยความเชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำ เพื่อขอพรและสร้างสิริมงคลให้แก่ตัวเอง แม้จะมีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้โยนเหรียญลงในบ่อน้ำเป็น 4 ภาษา คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลีแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความเชื่อของนักท่องเที่ยวได้ ยังคงมีเหรียญจำนวนมากกองรวมกันอยู่ในน้ำ
‘ญี่ปุ่น’ ประกาศ ‘ห้ามโยนเหรียญ’ ลงน้ำ อาจทำให้คนโชคดี แต่ทำลายพืชน้ำ

เหรียญที่กองอยู่ในบ่อน้ำในหมู่บ้านน้ำใส
ที่มา: Fuji News Network

อาสาสมัครดำน้ำเก็บเหรียญ เปิดเผยกับสำนักข่าวญี่ปุ่น Fuji News Network ว่า เขาเก็บเหรียญมาหลายปีแล้ว โดยเหรียญบางกองมีความสูงถึง 1 เมตร และเมื่อเหรียญลงไปในน้ำแล้ว เหรียญจะปนกับโคลนที่ก้นบ่อน้ำ ทำให้กำจัดเหรียญเหล่านี้ออกไปได้ยาก

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ห้ามโยนเหรียญ เนื่องจากเชื่อว่าโลหะเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ ปัจจุบันจำนวนพืชในน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง จากประเพณีการโยนเหรียญที่ปฏิบัติกันมาหลายปี

จากการศึกษาของทีมนักวิจัยในสหภาพยุโรปในปี 2020 พบว่า การโยนเหรียญลงในบ่อน้ำหรือน้ำพุ อาจทำให้เกิดการสะสมของอนุภาคโลหะที่มีจุลินทรีย์ปนเปื้อนในน้ำได้ อีกทั้งยังพบว่าชุมชนจุลินทรีย์ที่อยู่บนเหรียญนั้นมีลักษณะแตกต่างจากชุมชนจุลินทรีย์ในแหล่งน้ำ โดยตรวจพบยีนต้านทานยาปฏิชีวนะ (ARG) บนเหรียญส่วนใหญ่ ดังนั้นการโยนเหรียญจึงเป็นแหล่งที่มาและพาหะที่เป็นไปได้สำหรับ ARG สู่สภาพแวดล้อมโดยรอบ

ตามกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น กำหนดโทษสำหรับคนที่โยนเหรียญใส่บ่อน้ำของหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก ระวางโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับสูงสุด 1 ล้านเยน หรือประมาณ 233,900 บาท

Fuji News Network ตั้งกล้องบันทึกภาพบ่อน้ำแห่งหนึ่งของหมู่บ้านน้ำใสภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง พบว่ามีนักท่องเที่ยว 5 กลุ่ม โยนเหรียญลงในบ่อน้ำ โดยนักท่องเที่ยวกล่าวว่าไม่รู้ว่าห้ามโยนเหรียญลงน้ำ เพราะเห็นมีแต่เหรียญอยู่เต็มสระน้ำ

เจ้าหน้าที่ที่ดูแลบ่อน้ำสังเกตเห็นว่า ในปี 2024 มีการโยนเหรียญ 500 เยน ลงบ่อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลง และแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของพวกเขา เพราะเหรียญ 500 เยนถือเป็นเหรียญที่มีมูลค่ามากที่สุด

ในขณะนี้หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก กำลังมองหาวิธีอื่นนอกเหนือจากการสร้างป้ายเตือน เพื่อหยุดพฤติกรรมการโยนเหรียญของนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักท่องเที่ยวทำพฤติกรรมทำลายสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น (ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ)

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 จังหวัดยามานาชิต้องขึงผ้าสีดำขนาดใหญ่ขนาดสูง 2.5 เมตร และยาว 20 เมตร บริเวณร้านสะดวกซื้อ Lawson เพื่อบดบังทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิ หลังจากที่นักท่องเที่ยวมารวมตัวกันเพื่อถ่ายรูปที่หน้าร้าน จนกีดขวางการจราจร และทำให้การดำเนินชีวิตของคนท้องถิ่นไม่สะดวกสบาย

ขณะที่วัดเซ็นโซจิ ในจังหวัดไซตามะ ได้ประดิษฐาน “พระโพธิสัตว์” สำหรับวางเหรียญกษาปณ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยววางเหรียญนำโชคตามความเชื่อไว้บนฐานของรูปปั้น แทนที่จะโยนลงในสระน้ำ ซึ่งจะไปรบกวนสัตว์ทะเลและถิ่นที่อยู่ของพวกมัน


ที่มา: Fuji News NetworkSouth China Morning Post