‘เลโก้’ หันใช้ พลาสติกพลังงานสะอาดผลิตของเล่น แม้ต้นทุนสูง แต่ไม่ขึ้นราคา
“เลโก้” (Lego) เปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตของเล่นเลโก้ จากพลาสติกที่มาจากแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นพลาสติกหมุนเวียนและรีไซเคิลที่มีราคาแพงกว่าแทน เนื่องจากบริษัทยอดขายและกำไรพุ่งสูงขึ้น
KEY
POINTS
- “เลโก้” (Lego) เปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตของเล่นเลโก้ จากพลาสติกที่มาจากแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นพลาสติกหมุนเวียนและรีไซเคิลที่มีราคาแพงกว่าแทน โดยจะไม่ขึ้นราคา
- กำไรครึ่งปีแรกในปี 2024 ของเลโก้ พุ่งขึ้น 26% ด้วยมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ จากยอดขายเติบโตขึ้น 14% สวนทางกับตลาดของเล่นที่หดตัวลงประมาณ 7% ในปีก่อนหน้า
- พลาสติกทั้งหมดประมาณ 90% ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลบริสุทธิ์ และมีราคาถูกกว่าพลาสติกที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนราว 50-75%
บริษัทผู้ผลิตของเล่นอย่าง “เลโก้” (Lego) เปิดเผยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ว่าบริษัทกำลังจะเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตของเล่นเลโก้ จากพลาสติกที่มาจากแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นพลาสติกหมุนเวียนและรีไซเคิลที่มีราคาแพงกว่าแทน เนื่องจากบริษัทยอดขายและกำไรพุ่งสูงขึ้น
กำไรครึ่งปีแรกในปี 2024 ของเลโก้ พุ่งขึ้น 26% ด้วยมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ จากยอดขายเติบโตขึ้น 14% สวนทางกับตลาดของเล่นที่หดตัวลงประมาณ 7% ในปีก่อนหน้า แต่ละปีเลโก้สามารถจำหน่ายสินค้าตัวต่อได้หลายพันชิ้นต่อปี เป็นผลมาจากการเปิดตัวของเล่นใหม่ประมาณ 300 ชุด ทั้งกลุ่มเฟรนไชส์ภาพยนตร์ดัง เช่น Technics, Star Wars และ Harry Potter รวมถึงชุดไอคอนที่มีราคาแพง เช่น หอไอเฟล และรถยนต์แลมลัมโบร์กีนี
นอกจากนี้คอลเลกชันพฤกษศาสตร์ ที่เป็นตัวต่อพืชและดอกไม้ ยังช่วยดึงดูดผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ ให้กลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์มากยิ่งขึ้น
นีลส์ คริสเตียนเซน ซีอีโอของ Lego ได้ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ กล่าวกับ CNN ว่า “กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราได้รับความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้คนทุกเพศทุกวัยทั่วโลก”
เลโก้ชุดพฤกษศาสตร์
เครดิตภาพ: เว็บไซต์ LEGO
พลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา เลโก้ได้ทดสอบวัสดุที่แตกต่างกันมากกว่า 600 ชนิด เพื่อหาวัสดุชนิดใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่วัสดุเดิมซึ่งผลิตจากน้ำมันภายในปี 2032 ซึ่งแม้จะยังไม่พบวัสดุที่ใช้ทดแทนได้ 100% แต่บริษัทก็ได้ค้นพบว่าไม่ควรใช้ “โพลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต” (RPET) หลังจากพบว่าจะทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนสูงขึ้น
ด้วยกำไรที่เพิ่มขึ้น ทำให้เลโก้ตั้งเป้าที่จะลดปริมาณน้ำมันในการผลิตของเล่นลงทีละน้อย โดยยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 70% เพื่อให้ได้เรซินที่ผลิตจากพลังหมุนเวียนที่ผ่านการรับรอง มาใช้ในการผลิตของเล่น
คริสเตียนเซนระบุว่า บริษัทกำลังดำเนินการตรวจสอบแหล่งที่มาของเรซิน เพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุมากกว่าครึ่งหนึ่งที่จะใช้ผลิตสินค้าในปี 2026 ผ่านรับรองตามวิธีการสมดุลมวล ซึ่งเป็นวิธีการที่ตรวจสอบติดตามวัสดุที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ให้เพิ่มขึ้น 30% จากครึ่งแรกของปี 2024
เลโก้ตั้งเป้าที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากวัสดุหมุนเวียนและรีไซเคิลภายในปี 2032 โดยบริษัทจะรับภาระต้นทุนเพิ่มเติมในตอนนี้ และหวังว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะกระตุ้นให้เกิดบริษัทผลิตวัสดุจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น
“แน่นอนว่าต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้น แต่ด้วยเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเรา เรายินดีจะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้วัสดุใหม่ โดยไม่ขึ้นราคาสินค้า เพราะเราเห็นแล้วว่าลูกค้ายังไม่พร้อมจะแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น”
คริสเตียนเซนกล่าวกับ CNN
บริษัทหวังว่าจะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมไปสู่วัสดุที่ยั่งยืนและมีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น โดยเลโก้มุ่งเน้นที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและจัดทำโครงการความยั่งยืนของซัพพลายเออร์ขึ้นใหม่ ซึ่งกำหนดให้ซัพพลายเออร์กำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซภายในปี 2026 และลดลงกว่าเดิมภายในปี 2028 พร้อมให้คำมั่นว่าในแต่ละปีจะลงทุนด้านความยั่งยืนเพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2025
พลาสติกรีไซเคิลมีต้นทุนสูง
ตามข้อมูลจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติระบุว่า ในแต่ละปีมีการผลิตพลาสติกประมาณ 460 ล้านเมตริกตัน และอีก 20 ล้านเมตริกตันถูกทิ้งเรี่ยราดแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อม คาดว่าภายในปี 2040 ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการเติบโตของผู้ผลิตพลาสติกราคาถูก ซึ่งได้เงินทุนจากบริษัทน้ำมันรายใหญ่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งอุตสาหกรรมพลาสติกนี้จะทำให้เกิดความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับมลภาวะจากพลาสติกและไมโครพลาสติกที่เพิ่มขึ้น
ซัพพลายเออร์ของเลโก้หันมาใช้ของเสียทางชีวภาพ เช่น น้ำมันปรุงอาหาร หรือไขมันเสียจากอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงวัสดุรีไซเคิล ในการผลิตพลาสติกแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
บริษัทผู้ผลิตของเล่นเจ้าอื่น ๆ ก็เริ่มใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Hasbro ที่เริ่มใช้วัสดุจากธรรมชาติและวัสดุรีไซเคิล ในของเล่นบางชิ้น แต่ไม่ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดใช้พลาสติก ส่วน Mattel วางแผนที่จะใช้เฉพาะพลาสติกรีไซเคิล พลาสติกที่รีไซเคิลได้ หรือพลาสติกชีวภาพในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2030
ตลาดพลาสติกรีไซเคิลหรือพลาสติกหมุนเวียนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จากข้อมูลของ PlasticsEurope สมาคมการค้าพลาสติกของสหภาพยุโรป พบว่าพลาสติกทั้งหมดประมาณ 90% ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลบริสุทธิ์ ทำให้พลาสติกรีไซเคิลมีราคาแพงกว่าพลาสติกทั่วไป โดยพลาสติก จากเชื้อเพลิงฟอสซิลมีราคาถูกกว่าพลาสติกที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนราว 50-75% ตามข้อมูลของ Neste ผู้ผลิตวัตถุดิบหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดในโลก
ที่มา: CNN, Reuters, The Guardian, USA Today