ความท้าท้ายทางด้านธุรกิจ 'ปิโตรเคมี' ในยุคการเปลี่ยนผ่าน

ดร.ณัฐกร ไกรกุล ผู้จัดการฝ่าย (Vice President) Decarbonization Center of Excellence บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวในเวทีเสวนาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว ขับเคลื่อนธุรกิจ-องค์กรสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน  Road To NET ZERO 2024 : The Extraordinary Green จัดโดย ฐานเศรษฐกิจ ว่าธุรกิจ ปิโตรเคมีอยู่ในช่วงความท้าทายใหม่ ต้องเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากขึ้นแต่ต้องลดคาร์บอนให้น้อยลงเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โดยใช้โอกาสจากวิกฤตสิ่งแวดล้อมปรับตัวในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี การปกป้องธรรมชาติ และเตรียมพร้อมสําหรับผลกระทบและความเสี่ยงด้านสภาพอากาศถือเป็นเรื่องสำคัญ ในการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสดังนี้

1. ด้าน Corporate มีพัฒนาความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงพัฒนาความน่าเชื่อถือของบริษัทในเรื่องของความยั่งยืน

2. ด้าน Supply Chain ใช้ขับเคลื่อนตามความต้องการสินค้าคาร์บอนต่ำและยั่งยืนและและกานให้ความรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่คุณค่าทางสิ่งแวดล้อม

3. ด้าน Customer ต้องใช้สิ้นค้าที่คาร์บอนต่ำและใช้การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไบโอเบสรวมถึงการรีไซเคิลไม่ว่าจะเป็นการใช้พลาสติกการบริโภคพลาสติกทั่วโลก มีปริมาณที่สูงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้ผลิตในการลดการใช้พลาสติก ต้องหาทางเลือกที่ใช้แล้วย่อยสลายและรีไซเคิลได้ และลดเรื่องของคาร์บอนให้น้อยลง

นอกจากนี้ พีทีทีได้ทำเรื่องขอบความยั่งยืนขององค์กรใช้เป็นกลยุทธ์ในการลดคาร์บอน ไม่ว่าจะเป็น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การลงทุนการเติบโตที่มีมูลค่าสูงในธุรกิจคาร์บอนต่ำ การปรับปรุงสินค้าให้มีความยั่งยืนมากขึ้นและการหาโอกาสในการลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือโอกาสเข้าไปบริหารจัดการซัพพลายเชน

เส้นทางการลดคาร์บอนของพีทีที ขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพ ในการลดคาร์บอนและการอนุรักษ์พลังงาน การปรับปรุงการกําหนดค่าโรงงานใหม่ ให้มียูทิลิตี้ที่สะอาด ที่มีการปรับตัว และการปรับโครงสร้างธุรกิจ  รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอ

ตัวอย่างธุรกิจของพีทีทีที่มูลค่าสูง - ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ที่มีประสิทธิภาพ มีสารเคมีพิเศษ มีสารชีวภาพและการหมุนเวียน เช่น เชื้อเพลิงการบิน (SAF) ที่เป็นเชื้อเพลิงที่ยั่งยืน และโพลิเมอร์จากสารเคมีชีวภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทปิโตเคมีที่มีความยั่งยืนขึ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคตต่อไป