ดัชนี GHI 2024 เยเมนเป็นประเทศที่หิวโหยที่สุด ไทยรั้งอันดับ 52 จาก 127 ประเทศ

ดัชนี GHI 2024 เยเมนเป็นประเทศที่หิวโหยที่สุด ไทยรั้งอันดับ 52 จาก 127 ประเทศ

GHI ระบุว่า ปัญหาความหิวโหยสะท้อนถึงภาวะขาดสารอาหารทีของเด็กที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากคุณภาพอาหารที่แย่ ความท้าทายทางเศรษฐกิจ และผลกระทบที่เพิ่มขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป้าหมายการขจัดความหิวโหยของ UN ภายในปี 2030 ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถบรรลุได้

ดัชนีความหิวโหยโลก (Global Hunger Index หรือ GHI) เป็นเครื่องมือที่ใช้โดยองค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศเพื่อวัดและติดตามระดับความหิวโหยในประเทศต่างๆ โดยให้ภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสภาวะความหิวโหยทั่วโลก ช่วยในการระบุพื้นที่ที่ต้องการความสนใจและการดำเนินการอย่างเร่งด่วน

ตัวชี้วัดสำหรับ GHI 2024

  • คะแนน GHI คำนวณจากตัวชี้วัดหลัก 4 ประการ ได้แก่:
  • ภาวะขาดสารอาหาร : สัดส่วนของประชากรที่ขาดสารอาหาร
  • ภาวะผอมแห้งในเด็ก : สัดส่วนของเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีที่มีภาวะผอมแห้ง (น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์สำหรับส่วนสูง)
  • ภาวะเตี้ยในเด็ก : สัดส่วนของเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีที่มีภาวะเตี้ย (ความสูงน้อยกว่าเกณฑ์สำหรับอายุ)
  • อัตราการตายในเด็ก : อัตราการตายในเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี

ตัวชี้วัดเหล่านี้ให้ภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความหิวโหยและภาวะทุพโภชนาการ ช่วยให้นโยบายและองค์กรสามารถกำหนดเป้าหมายการแทรกแซงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

GHI ระบุว่า เพราะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ความคืบหน้าในการต่อสู้กับปัญหาความหิวโหยทั่วโลกชะลอตัวลงอย่างน่าวิตก โดยคะแนนดัชนีความหิวโหยทั่วโลกประจำปี 2024 อยู่ที่ 18.3 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ลดลงเพียงเล็กน้อยจากคะแนนประจำปี 2016 ที่ 18.8

ทั้งนี้ โอกาสในการบรรลุเป้าหมายขจัดความหิวโหยให้ได้ภายในปี 2030 นั้นดูริบหรี่ เนื่องจากยังมี 42 ประเทศที่ยังคงประสบปัญหาความหิวโหยในระดับ "ร้ายแรง" (Alarming)

10 ประเทศระดับความหิวโหยสูงสุด 2024

ประเทศเหล่านี้เผชิญกับความท้าทายอย่างรุนแรงในการรักษาความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการที่เพียงพอให้กับประชากรของตนเอง

  • อันดับ 1 เยเมน คะแนน 50.0 (ระดับความหิวโหย Extremely Alarming)
  • อันดับ 2 โซมาเลีย คะแนน 49.1 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 3 ซูดานใต้ คะแนน 48.6 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 4 ซีเรีย คะแนน 47.8 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 5 สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก คะแนน 47.3 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 6 ไนเจอร์ คะแนน 46.8 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 7 โมซัมบิก คะแนน 46.5 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 8 อัฟกานิสถาน คะแนน 46.2 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 9 มาดากัสการ์ คะแนน 45.9 (ระดับความหิวโหย Alarming)
  • อันดับ 10 เอธิโอเปีย คะแนน 45.5 (ระดับความหิวโหย Alarming)

10 ประเทศระดับความหิวโหยต่ำ (Low) 2024

ประเทศเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการลดระดับความหิวโหย แสดงให้เห็นถึงระบบความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการที่แข็งแกร่ง

  • อันดับ 1 เบลารุส คะแนน <5
  • อันดับ 2 บอสเนีย และเฮอร์เซโกวีนา คะแนน <5
  • อันดับ 3 ชิลี คะแนน <5
  • อันดับ 4 จีน คะแนน <5
  • อันดับ 5 คอสตาริกา คะแนน <5
  • อันดับ 6 โครเอเชีย คะแนน <5
  • อันดับ 7 เอสโตเนีย คะแนน <5
  • อันดับ 8 จอร์เจีย คะแนน <5
  • อันดับ 9 ฮังการี คะแนน <5
  • อันดับ 10 คูเวต คะแนน <5

สถิติความหิวโหยของไทยในปี 2024

ดัชนีความหิวโหยระดับโลก (GHI) ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 52 จาก 127 ประเทศ โดยมีคะแนน 10.1 ซึ่งบ่งบอกถึงระดับความหิวโหยระดับ "ปานกลาง"

  • การขาดสารอาหาร : ประมาณ 5.6% ของประชากร มีภาวะขาดสารอาหาร
  • ภาวะเตี้ยในเด็ก : ประมาณ 12.4% ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีภาวะเตี้ย
  • ภาวะผอมแห้งของเด็ก : ประมาณ 7.2% ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีภาวะผอมแห้ง
  • อัตราการตายของเด็ก : มีเพียง 0.8% ของเด็ก ที่เสียชีวิตก่อนอายุครบห้าปี

สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญในการรักษาความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการที่เพียงพอสำหรับประชาชนทุกคน

 

 

ที่มา : GHI