โค้งสุดท้ายปลายปีเล็ง“กองทุนTESG” หลังเพิ่มเพดานลดหย่อนเป็น3แสนบาท
ใกล้ฤดูกาลยื่นภาษีแล้ว การมองหาแหล่งลงทุน เพื่อลดหย่อนภาษีเป็นภาระกิจที่คนไทยผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์ทุกคนต้องเร่งทำ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อเป้าหมายออม ลงทุน และลดหย่อนภาษีมีอยู่มากมาย แต่ปัจจัยการลงทุนเพื่อความยั่งยืนกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรง
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ตรวจพิจารณาแล้วตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
สาระสำคัญการปรับปรุงการให้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) โดยให้ขยายวงเงินการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนจาก 100,000 บาทต่อปีภาษี เป็น 300,000 บาทต่อปีภาษี
ทั้งนี้ ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินและให้ลดเวลาถือครองหน่วยลงทุนเหลือไม่น้อยกว่า 5 ปีจากเดิมต้องถือครองหน่วยลงทุนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 8 ปี
สำหรับหน่วยลงทุนที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2569 และกำหนดให้ไม่ต้องนำเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่TESG มารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องถือหน่วยลงทุนดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน
โดยวงเงินลงทุนของThai ESG จะไม่ถูกนับรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆได้แก่ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญที่ปัจจุบันกำหนดเพดานลดหย่อนภาษี รวมกันได้ไม่เกิน500,000 บาท
กรณีผู้มีเงินได้ซื้อกองทุน TESG ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันก่อนวันที่กฎกระทรวงฯ ที่กระทรวงการคลังเสนอ มีผลใช้บังคับ ผู้มีเงินได้ดังกล่าวจะได้รับสิทธิหักค่าลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในอัตรา 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท และได้รับลดเวลาถือครองหน่วยลงทุนเหลือเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนด้วย
ส่วนกรณีที่ซื้อกองทุนTESG ก่อนวันที่ 1 ม.ค.2567และกรณีซื้อกองทุน TESGตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2570 เป็นต้นไปผู้ซื้อกองทุนจะได้รับสิทธิหักค่าลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในอัตรา30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท เมื่อถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 8 ปีนับแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน
โดยผู้มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง) และเงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์จากการซื้อหน่วยลงทุนTESGจากการขายหน่วยลงทุนTESGนำเงินได้มาซื้อหน่วยลงทุนใน TESG ต้องลงทุนใน TESG ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2569
สำหรับกองทุน Thai ESG ข้อมูลจากธนาคารกรุงไทยระบุว่า ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน โดยแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) ที่ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศและระดับโลกได้วางเป้าหมายของ Net Zero ไว้ภายใน พ.ศ. 2608 เช่นกัน
กองทุน Thai ESG จึงเป็นกองทุนลดหย่อนภาษีที่น่าทำความรู้จักสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการลงทุน โดยกรุงไทยรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับกองทุน Thai ESG มาไว้ในบทความนี้แล้ว
โดยกองทุน Thai ESG มีชื่อเต็มว่ากองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน คือกองทุนลดหย่อนภาษีตัวใหม่ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น ESG ไทย และ/หรือตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน (ESG Bond) ไทย โดยหุ้นกลุ่ม ESG เป็นหุ้นที่ให้ความสำคัญกับ 3 องค์ประกอบ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ควบคู่กับการมีผลการดำเนินงานที่ดี
สิ่งแวดล้อม (Environmental) คือ การที่บริษัทใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ การรักษาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ
สังคม (Social) คือ การบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรอย่างเท่าเทียม คำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานและสุขภาพของพนักงาน อีกทั้งการให้ความสำคัญกับชุมชุนที่อยู่รอบ
ด้านบรรษัทภิบาล (Governance) คือ การดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ต่อต้านการทุจริต มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และดูแลผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทอย่างเป็นธรรม