ฟิวชั่นนิวเคลียร์ คู่แข่ง SMR ป้องกันไทยตกขบวนพลังงานสะอาด

ฟิวชั่นนิวเคลียร์ คู่แข่ง SMR ป้องกันไทยตกขบวนพลังงานสะอาด

เทคโนโลยีมาใหม่และน่าสนใจ คือ พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น ปลอดภัยสูงกว่า ไม่ได้ใช้ยูเรเนียม ต้นทุนถูกกว่า SMR ประมาณ 50% ไทยควรพิจารณาพลังงานฟิวชันเข้ามาอยู่ในแผน PDP

KEY

POINTS

  • เทคโนโลยีที่มาใหม่และน่าสนใจ คือ พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
  • พลังงานฟิวชั่น ความปลอดภัยสูงกว่า ไม่ได้ใช้ยูเรเนีย

กรุงเทพธุรกิจ Roundtable จัดเสวนาหัวข้อที่สำคัญ “SMR ทางเลือก ทางรอด Green Energy” วันอังคาร ที่ 18 มีนาคม 2568 เวลา 13.00-16.00 น. เพื่อเจาะลึกเทคโนโลยี SMR (Small Modular Reactor) พลังงานสะอาดที่ทั่วโลกจับตา

กระแส "SMR" ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กที่หลายฝ่ายมองว่าอาจจะเป็นทางเลือกสำคัญในการก้าวข้ามวิกฤติด้านพลังงานในอนาคต แต่ก็ยังมีประเด็นคาใจอยู่มากมายถึงมาตรการต่างๆ ทั้งการลงทุน เทคโนโลยี ความปลอดภัย และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

โดยหนึ่งในผู้ร่วมเสวนา นพ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ Managing Partner จาก SeaX Ventures กล่าวว่า เทคโนโลยี SMR หรือเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบโมดูลาร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นพลังงานประเภทฟิชชันมีมาในระยะใหญ่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องของความปลอดภัยมีการพัฒนาและยกระดับขึ้นมาสูงมาก

“แต่เทคโนโลยีที่มาใหม่และน่าสนใจ คือ พลังงานฟิวชั่น ซึ่งก็เป็นพลังงานนิวเคลียร์เหมือนกัน ในปัจจุบันได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมากๆ โดยในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกาได้ทุ่มเงินทุนหลายพันล้านเพื่อสนับสนุนการพัฒนาฟิวชั่นให้เกิดความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้พลังงานฟิวชั่นนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการวิจัยและพัฒนาแล้ว เพราะอยู่ในขั้นทดลอง”

ฟิวชั่นนิวเคลียร์ คู่แข่ง SMR ป้องกันไทยตกขบวนพลังงานสะอาด

ข้อดีของพลังงานฟิวชั่น

เมื่อพูดถึงข้อดีของฟิวชั่น นพ.ศุภชัย กล่าวว่า หนึ่ง คือความปลอดภัยจะสูงกว่า เพราะฟิวชั่นไม่ได้ใช้ยูเรเนียม และอาจจะไม่มีปัญหาหรือขยะนิวเคลียร์มากเหมือนกับฟิชชัน หรือ SMR ที่ใช้ยูเรเนียม ซึ่งฟิวชั่นจะใช้วัสดุอื่นที่มีปริมาณน้อยกว่า ดังนั้นในเรื่องของความปลอดภัยก็จะมีสูงขึ้น

สอง คือเรื่องของความเสถียรภาพ ฟิวชั่นสามารถใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนกับ SMR โดยไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหรือฟ้าลม ซึ่งก็ถือเป็นข้อดีที่สำคัญเช่นกัน และสาม อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจที่เราทำการศึกษาวิจัยก็คือเรื่องของต้นทุน โดยพลังงานมีต้นทุนถูกกว่า SMR ประมาณ 50% จะส่งผลให้ประชาชนใช้ไฟในราคาถูกกว่าเดิมในระยะยาว และสาม ระยะเวลาในการก่อสร้างไม่นาน พอๆ กับ SMR

สหรัฐฯ เดินหน้าพลังงานฟิวชันเต็มที่

นพ.ศุภชัย กล่าวด้วยว่า จากที่ได้พูดคุยกับบริษัทต่างๆ พบว่า ต้นทุนในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันนั้นต่ำกว่า SMR ประมาณ 50% ซึ่งจุดนี้ทำให้เราเริ่มสนใจพลังงานฟิวชันมากขึ้น และล่าสุดมีข่าวใหญ่จากอเมริกาที่บ่งชี้ว่า บริษัทฟิวชันเอ็นเนอร์จี้ในสหรัฐฯ ได้เซ็นสัญญากับ TVA (Tennessee Valley Authority)

ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เพื่อร่วมลงทุนตั้งโรงงานพลังงานฟิวชันร่วมกัน หมายความว่าไม่ใช่แค่การทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนร่วมกันในการตั้งโรงงาน เพื่อให้มีความมั่นใจในเทคโนโลยีและความคืบหน้าในอนาคต

“จุดนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้พลังงานฟิวชันน่าจะมีบทบาทในระดับโลกมากขึ้น เราจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ในประเทศไทยเช่นกัน และการทำไฮบริดพลังงาน SMR และพลังงานทดแทนอื่นๆ เราก็สามารถทำไปควบคู่กัน โดยเฉพาะการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ต้นทุนกำลังลดลงเรื่อยๆ"

เราควรพิจารณาการนำพลังงานฟิวชันเข้ามาอยู่ในแผน PDP (Power Development Plan) ของไทยอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกขบวนในเรื่องของพลังงานสะอาด โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยี SMR และฟิวชันสามารถเสริมกันได้ในระยะยาว

ไทยต้องไม่ต้องตามหลังประเทศอื่น

นพ.ศุภชัย กล่าวว่า แม้บางคนบอกว่าควรใช้เวลา 10 ปีเพื่อพัฒนา SMR ในประเทศไทย แต่ที่อเมริกาโรงงานฟิวชันที่กำลังสร้างใช้เวลา 10 ปีเช่นกัน ดังนั้น การเริ่มต้นศึกษาและเตรียมแผนสำหรับพลังงานฟิวชันวันนี้ จะช่วยให้เราไม่ต้องตามหลังประเทศอื่นๆ และสามารถก้าวหน้าไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้ในที่สุด

พลังงานฟิวชันและ SMR ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องพัฒนาเพื่อให้มีความมั่นคงด้านพลังงาน และสามารถก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีพลังงานสะอาดอย่างแท้จริงในอนาคต

"ผมคิดว่าเราควรให้ความสำคัญมีหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการทำให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานใหม่ๆ เช่น SMR หรือฟิวชัน จริงๆ แล้ว พื้นฐานสำคัญคือการให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเข้าใจเรื่องพลังงานอย่างแท้จริง ก่อนที่เราจะพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ พวกนี้ เช่น พลังงานนิวเคลียร์ หรือพลังงานฟิวชัน

ผมเชื่อว่า หากเราสามารถทำให้ประชาชนเข้าใจเรื่องพลังงานพื้นฐาน เช่น การใช้พลังงานจากโซลาร์ที่บ้าน หรือวิธีการขายไฟฟ้าจากโซลาร์ได้ พวกเขาจะมีความเข้าใจมากขึ้น และเมื่อถึงเวลาที่เราแนะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น SMR หรือฟิวชัน พวกเขาก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้นมาก เพราะเมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้ว เขาจะเห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถช่วยในการลดการปล่อยคาร์บอนได้จริง”

แซนด์บ็อกซ์พลังงาน SMR หรือฟิวชัน

สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะไม่ต้องรอต่อคิวจากประเทศอื่นๆ ผมคิดว่าเราต้องสร้างความน่าสนใจในเรื่องนี้ขึ้นให้เกิดในประเทศไทยเช่นเดียวกับที่เราเห็นอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เติบโตจากการสร้างโอกาสและความสนใจให้กับนักลงทุน

"ตัวอย่างที่ผมคิดคือ การสร้าง 'แซนด์บ็อกซ์' สำหรับพลังงาน SMR หรือฟิวชัน ซึ่งจะช่วยให้เราเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ได้เร็วขึ้น ผมเชื่อว่าเราสามารถตั้งเป้าหมายในการพัฒนาแซนด์บ็อกซ์นี้ภายใน 5 ปี เพื่อให้เกิดการทดลองใช้งานจริง และพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้"

ดึงดูดนักลงทุนหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ

"ผมคิดว่า หากเราต้องการดึงดูดนักลงทุนหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ต้องใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น การจัดงานอีเว้นต์ การสร้างอินเซนทีฟที่เหมาะสม และการร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการสร้างโอกาสในตลาดพลังงานสะอาด หากเราทำได้ตามนี้ ประเทศไทยจะมีอนาคตที่สดใสในเรื่องของพลังงานสะอาดและยั่งยืน"

เมื่อพูดถึงการลงทุน นพ.ศุภชัย กล่าวว่า การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือ Deep Tech ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ SeaX Ventures เลือกที่จะลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้ เพราะหากไม่ลงทุน ก็จะไม่ได้รับโอกาสในการพัฒนาอะไรเลย ในท้ายที่สุด ประเทศไทยก็จะไม่ได้รับประโยชน์

"ผมคิดว่าการลงทุนที่เราทำนั้น เรามองไปที่การกระจายความเสี่ยงให้ดี ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราลงทุนใน 100 ตัว แน่นอนว่า มันก็จะมีบางตัวที่ไม่สำเร็จ อาจจะเสียไป 1% แต่ถ้าหากว่าเราลงทุนในโครงการที่มีโอกาสชนะมากขึ้น ตัวที่ประสบความสำเร็จอาจจะไม่ได้แค่ 1 หรือ 2 ตัว แต่สามารถเป็น 20 หรือ 30 ตัวก็เป็นได้"

ดังนั้น วิธีการมองที่ถูกต้องคือการเข้าใจว่า ความเสี่ยงนั้นคืออะไร และต้องพิจารณาจากมุมมองที่หลากหลาย และหวังว่าจะเลือกลงทุนในที่ที่มีโอกาสและสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้