Healthcare sector - โลกหลังโควิด-19

Healthcare sector - โลกหลังโควิด-19

เราคาดรายได้บริการเกี่ยวกับโควิดจะลดลงอย่างต่อเนื่องใน 3Q และจะต่ำสุดใน 4Q ไปในทิศทางเดียวกับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลง และการยกเลิก UCEP COVID (ยกเลิกการให้สิทธิ์รักษาฟรีแก่ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว) โดยยังคง UCEP COVID Plus (สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง/แดง)

เราเชื่อว่าแนวโน้มกำไรของกลุ่มโรงพยาบาลจะถูกขับเคลื่อนโดยอุปสงค์คงค้างจากทั้งผู้ป่วยไทยและต่างชาติ, การให้บริการด้านการป้องกัน และ wellness และการผ่าตัดที่ใช้เวลาพักฟื้นสั้นลงจะช่วยเพิ่มรายได้ เราคาดกำไรของ BCH และ CHG จะลดลง qoq ใน 3Q แต่กำไรของ BDMS และ BH ซึ่งเป็นหุ้นเด่นของเราจะเพิ่มขึ้น  

 

รายได้เกี่ยวกับโควิดจะต่ำสุดใน 4Q 

จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเฉลี่ยลดลง 81% qoq เหลือ 1,870 รายใน 3Q และเหลือเพียง 242 รายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 2021 ทำให้มีโอกาสที่ประเทศไทยจะประกาศให้โควิด-19เป็นโรคเฝ้าระวังในวันที่ 1 ตุลาคม อุปสงค์บริการเกี่ยวกับโควิดลดลงอย่างมากเช่นกันได้แก่ การตรวจ RT-PCR ลดลง 74% qoq เหลือ 6,140 ราย/วัน และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล, hospitel, โรงพยาบาลสนาม และกักตัวที่บ้านลดลงต่อเนื่อง (Fig. 5-6) และคาดว่าจะต่ำสุดใน 4Q ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.เป็นต้นมา สปสช. และสำนักงานประกันสังคม ได้ยกเลิก UCEP COVID  คงเหลือเพียง UCEP COVID Plus สำหรับผู้ป่วยสีเหลืองและแดง ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจะได้รับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกฟรีที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์สวัสดิการ (รัฐบาลไม่ให้เบิกค่าตรวจ RT-PCR/ATK, HI, hospitel, โรงพยาบาลสนาม) นอกจากนี้ศูนย์บริการวัคซีนโควิดบางซื่อจะปิดบริการในวันที่ 30 ก.ย. 

 

 

 

ธุรกิจโรงพยาบาลจะขยายต่อเนื่อง

ธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศไทยขยายตัว 6.4% CAGR ในช่วงปี 1993-2019 เป็น7.02 แสนล้านบาท โดยโรงพยาบาลเอกชนมีส่วนแบ่งตลาด 59% เราเชื่อว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจาก (i) การปลดล็อกอุปสงค์ คงค้างของผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ จำนวนผู้ป่วยโรคติดต่อที่สำคัญเพิ่มขึ้น 9.3% CAGR ในช่วงปี 2003-2019 เป็น 851,430 ราย [ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม ไข้เลือดออก  มือ-เท้า-ปาก] และโควิด-19 จะเป็นโรคตามฤดูกาลอีกโรคหนึ่ง  จำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเพิ่มขึ้น 6.6% CAGR ในช่วงปี 2007-2019 เป็น 3.3 ล้านราย [หัวใจ เบาหวาน ความดันสูง และหลอดเลือดตีบ] คาดว่าจีนจะยกเลิกนโยบาย zero COVID ภายในเดือนม.ค. 2023 ซึ่งจะทำให้รายได้โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะรายได้บริการ IVF (ii) บริการด้านการป้องกันและ wellness เพิ่มขึ้น โดย Global Wellness Institute ประเมินขนาดของตลาด wellness ของโลกที่ 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนโควิด ระบาด และลดเหลือ 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2020 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2025 (การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเพิ่มขึ้น 20% CAGR เป็น 4.36 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ตามข้อมูลของ Wellness Tourism Initiative 2020 ประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (iii) รายได้เพิ่มขึ้นจากการหมุนเวียนลูกค้าเร็วขึ้น และราคาค่าบริการเพิ่มขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย (การผ่าตัดแผลเล็ก, การใช้ robot ผ่าตัด ฯลฯ) ซึ่งจะสนับสนุนประมาณการกำไรใน 2H และปีหน้า

 

แนวโน้มกำไร

เราคาดว่ากำไรใน 3Q ของ BDMS และ BH จะเพิ่มขึ้น qoq จากอุปสงค์คงค้างของผู้ป่วยไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาต่อเนื่อง แต่กำไรของ BCH และ CHG จะลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สี่เนื่องจากรายได้จากบริการเกี่ยวกับโควิดลดลง และการประหยัดต่อขนาดลดลง