ถอดกลยุทธ์ลงทุน 'ไรอัน เรย์โนลด์ส' ปั้นธุรกิจสู่ความมั่งคั่งหมื่นล้าน!
ถอดสูตรสำเร็จสไตล์ “ไรอัน เรย์โนลด์ส” ดาวฮอลลีวูดที่โด่งดังจากบทบาทมาดกวน แต่ปัจจุบันหันมาจริงจังด้านการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ และสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้ถึงหลักหมื่นล้านบาท
Keypoints:
- เว็บไซต์ celebritynetworth.com ระบุ เรย์โนลด์ส มีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิอยู่ที่ 350 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท
- เรย์โนลด์ส ร่วมลงทุนในหลายธุรกิจ รวมไปถึงบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และฟินเทค
- ใช้กลยุทธ์ทำให้ตัวเองเป็น “หน้าตา” ของบริษัทที่เข้าไปลงทุน ผ่านโฆษณาที่มีสตอรี เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทนั้น ๆ
หากเอ่ยถึง ไรอัน เรย์โนลด์ส นักแสดงชื่อดังชาวแคนาดา หลายคนอาจจำเขาได้จากตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ปั่นประสาท หรือเรียกได้ว่าสุดเกรียน จากภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง เช่น Deadpool (เดดพูล) และเจ้าของเสียงพากย์ Pikachu ในเรื่อง Detective Pikachu (โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู)
แม้ว่าเรย์โนลด์ส ยังคงมีผลงานการแสดงให้เห็นกันอยู่และไม่มีแผนอำลาวงการฮอลลีวูดในเร็ว ๆ นี้ แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ผันตัวเป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนในหลายธุรกิจ ตั้งแต่บริษัทฟินเทค สตาร์ทอัพ ไปจนถึงเป็นเจ้าของร่วมสโมสรฟุตบอลนอกลีกอย่าง “เร็กซ์แฮม” ในเวลส์ด้วย
- พาทีมนอกลีกเลื่อนชั้นรอบ 15 ปี
เมื่อปลายปี 2563 เรย์โนลด์ส และร็อบ แม็คเอเลนนีย์ เพื่อนร่วมวงการฮอลลีวูด เข้าเทคโอเวอร์สโมสรเร็กซ์แฮม ด้วยมูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 85.6 ล้านบาท) ซึ่งขณะนั้นเล่นอยู่ในการแข่งขันฟุตบอลนอกลีกของสหราชอาณาจักร ที่เรียกว่า เนชันแนลลีก (National League)
เมื่อเข้ามาเป็นเจ้าของทีมเต็มตัว เรย์โนลด์สและแม็คเอเลนนีย์ ได้ลงทุนด้านปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของสโมสร หาสปอนเซอร์รายใหม่ รวมทั้งจ้างนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชเพิ่ม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในสนาม
ในที่สุด การลงทุนของทั้งคู่ก็เริ่มเห็นผล เมื่อเร็กซ์แฮมคว้าแชมป์ฟุตบอลเนชันแนลลีก เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมคว้าตั๋วไปเล่นในลีกทู (League Two) ในฤดูกาลหน้า ถือเป็นการกลับไปโลดแล่นในลีกอาชีพครั้งแรกในรอบ 15 ปีของสโมสร
- ไรอัน เรย์โนลด์ส และร็อบ แม็คเอเลนนีย์ สองเจ้าของสโมสรเร็กซ์แฮม ร่วมฉลองแชมป์เนชันแนลลีก พร้อมคว้าตั๋วกลับไปเล่นในลีกอาชีพครั้งแรกในรอบ 15 ปี (เครดิต: AFP) -
- ลงทุนหลายธุรกิจ ปั้นความมั่งคั่งทะลุ 1 หมื่นล้าน
ข้อมูลจากเว็บไซต์ celebritynetworth.com ระบุว่า เรย์โนลด์ส วัย 46 ปี มีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิอยู่ที่ 350 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท หลังจากร่วมลงทุนในหลายธุรกิจ รวมไปถึง Aviation Gin บริษัทสุราที่มีฐานในรัฐออริกอน และ Mint Mobile ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่มีสำนักงานใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ในปี 2561 เรย์โนลด์สซื้อหุ้นในบริษัท Aviation Gin พร้อมนั่งตำแหน่งกรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ อีกทั้งใช้ชื่อเสียงของตัวเองช่วยปั้นแบรนด์ Aviation Gin ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
กระทั่งเดือน ส.ค. 2563 เขาได้ขายหุ้นในบริษัทนี้ให้กับ Diageo บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ข้ามชาติของอังกฤษ ด้วยมูลค่าที่อาจสูงถึงราว 610 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.08 หมื่นล้านบาท) หากแบรนด์ Aviation Gin ขายดีติดตลาดในทศวรรษหน้า
ในข้อตกลงนี้ เจ้าของบทบาท Deadpool ได้รับการชำระเงินล่วงหน้าจาก Diageo มาแล้ว 335 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.15 หมื่นล้านบาท) โดยคาดกันว่าเขาเคยถือหุ้น 20% ใน Aviation Gin
- จากนักแสดงแถวหน้าฮอลลีวูด สู่นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ (เครดิต: AFP) -
นอกจากนี้ เรย์โนลด์สยังซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งในบริษัทมือถือ Mint Mobile เมื่อเดือน ธ.ค. 2562 และรับบทบาทโฆษกหลักของบริษัทและพรีเซนเตอร์โฆษณาของ Mint Mobile อยู่หลายตัว
จนกระทั่งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา T-Mobile บริษัทเทเลคอมยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีเข้าซื้อกิจการ Mint และบริษัทแม่ Ka'ena Corp ด้วยเงินสดและหุ้นมูลค่าราว 1,350 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.62 หมื่นล้านบาท)
คาดกันว่า เรย์โนลด์สถือหุ้น 25% ในบริษัท Mint และหากสัดส่วนถือหุ้นนี้ถูกต้อง เขาจะได้รับส่วนแบ่งจากดีลนี้เป็นเงินสดถึง 131 ล้านดอลลาร์ก่อนหักภาษี หรือราว 70 ล้านดอลลาร์หลังหักภาษีแล้ว
ขณะเดียวกัน ดาวดังชาวแคนาดาจะได้หุ้น T-Mobile มาถือเล่น ๆ อีกกว่า 1.42 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 205 ล้านดอลลาร์ คำนวณจากราคาหุ้น T-Mobile ในวันประกาศข้อตกลงซื้อกิจการเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 144 ดอลลาร์ต่อหุ้น
- รุกลงทุนในธุรกิจฟินเทค
เพียง 1 เดือนหลังจาก T-Mobile ซื้อกิจการ Mint Mobile เรย์โนลด์สก็ไม่รอช้าที่จะเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่เขาแทบไม่มีความเข้าใจด้วยซ้ำ นั่นคือ “ฟินเทค” หรือ เทคโนโลยีทางการเงิน
ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าของเสียงพากย์พิคาชู ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นจำนวนหนึ่งใน Nuvei (นิวเว) บริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่ของแคนาดา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองมอนทรีออล พร้อมยอมรับกับสื่อว่า เขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับฟินเทคเลย เหมือนกับตอนไปลงทุนในบริษัทค่ายมือถือและบริษัทสุรา แต่โชคดีที่ไม่ได้บริหารบริษัทเอง
เรย์โนลด์ส เปิดเผยกับ CNBC ว่า Nuvei เป็นส่วนเพิ่มเติมที่ดีเยี่ยมในพอร์ตการลงทุนของตน เนื่องจากเล็งเห็นถึงมูลค่าที่เขาสามารถนำมาสู่แบรนด์นี้ได้
“ถ้าคุณดูบริษัท Aviation Gin, Mint Mobile และสโมสรฟุตบอลเร็กซ์แฮม จะเห็นว่าไม่ได้ไปในทางเดียวกันเลย” เรย์โนลด์สกล่าว “แต่พวกเขาต่างมีพื้นฐานแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วตอนที่ผมเข้าไปลงทุน”
- เพิ่มมูลค่าแบรนด์ด้วย “สตอรี”
แน่นอนว่า กลยุทธ์ของเรย์โนลด์ส คือการทำให้ตัวเองเป็น “หน้าตาสาธารณะ” ของบริษัทที่เข้าไปลงทุน ผ่านโฆษณาต่าง ๆ ที่ผลิตโดย “Maximum Effort” บริษัทเอเยนซีที่เขาร่วมก่อตั้งเมื่อปี 2561 ตัวอย่างเช่น โฆษณาของ Mint Mobile ที่เขานำแสดง เป็นต้น
- เรย์โนลด์ส ในบทบาทพรีเซนเตอร์โฆษณา Mint Mobile (เครดิต: ช่องยูทูบ Mint Mobile) -
สำหรับ Maximum Effort อยู่เบื้องหลังโฆษณาที่เป็นกระแสไวรัลหลายล้านวิวบน YouTube ของหลายบริษัท นอกจาก Mint Mobile ที่เรย์โนลด์สลงทุนแล้ว ยังมี Match Group เจ้าของเว็บไซต์และแอปฯหาคู่ชื่อดังที่เรย์โนลด์สเป็นกรรมการบริหารด้วย
ก่อนหน้านี้ เรย์โนลด์สเคยนั่งตำแหน่งซีอีโอของ Maximum Effort Marketing ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ดำเนินงานด้านการตลาดของ Maximum Effort ก่อนที่ MNTN บริษัทซอฟต์แวร์โฆษณาซื้อกิจการไปเมื่อปี 2564
“งานของผม คือการเล่าเรื่อง” ดาวฮอลลีวูด วัย 46 ปีเผย “ผมคิดว่า ที่ Maximum Effort งานของเราน่าจะเรียกว่าการลงทุนที่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกในการเข้าถึงผู้บริโภค มากกว่าการลงทุนทางการเงินแบบจ๋า ๆ”
ขณะที่ธุรกิจใหม่อย่าง Nuvei ถึงแม้จะเป็นบริษัท B2B ที่ขายผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มธุรกิจมากกว่ากลุ่มลูกค้าทั่วไป แต่เจ้าของบทบาท Deadpool บอกว่า เขายังเห็นโอกาสในการสร้างมูลค่าให้แบรนด์นี้
“บรรดาบริษัท B2B ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกนี้ ต่างมีสตอรีให้เล่า” เรย์โนลด์สระบุ “สำหรับผม ทุกอย่างมันเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ในแง่ของการลงทุนทางการเงิน ผมอาจไม่ใช่พ่อมด แต่ในแง่ของการลงทุนที่ใช้อารมณ์เข้าถึงผู้บริโภค เป็นส่วนที่ผมเซียนที่สุดแล้ว”
-------------------------
อ้างอิง: Investopedia, CNBC, Standard UK, Celebrity Net Worth