‘IMF’ มอง ‘เฟด’ ไม่ควรลดดอกเบี้ย เตือนสหรัฐก่อหนี้สูงเกินไป

‘IMF’ มอง ‘เฟด’ ไม่ควรลดดอกเบี้ย เตือนสหรัฐก่อหนี้สูงเกินไป

‘IMF’ แนะ ‘เฟด’ ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไว้จนถึงปลายปีนี้ เตือนเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตเร็วสุดในกลุ่ม G20 แต่แฝงความเสี่ยงเงินเฟ้อสูง กังวลสหรัฐเผชิญการขาดดุลงบประมาณสูงจากการก่อภาระหนี้มาก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แนะนำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึง “ปลายปีนี้” เป็นอย่างน้อย เพราะเศรษฐกิจสหรัฐเป็นเพียงประเทศเดียวในกลุ่ม G20 ที่มีการเติบโตสูงกว่าระดับก่อนการระบาดโควิด-19 และการเติบโตที่ “แข็งแกร่ง” นี้ บ่งชี้ถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่

สหรัฐควรตรึงดอกเบี้ยถึงปลายปี

"เราตระหนักถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ด้วยความเสี่ยงเหล่านั้น เราเห็นด้วยว่า ธนาคารกลางสหรัฐควรตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับปัจจุบันไปจนถึงปลายปี 2567 เป็นอย่างน้อย" คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการ IMF กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (27 มิ.ย.67) ที่ผ่านมา โดยในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐอยู่ในช่วงระหว่าง 5.25% ถึง 5.50% ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566

นอกจากนี้ IMF คาดการณ์อีกว่า ดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ มีแนวโน้มอยู่ที่ประมาณ 2.5% ณ สิ้นปี 2567 และจะลดลงไปสู่เป้าหมาย 2% ภายในกลางปี 2568 ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดเคยคาดการณ์ว่าจะเกิดในปี 2569

 

 

 

IMF เตือนสหรัฐก่อหนี้สูงเกินไป จนขาดดุลงบประมาณ

นอกจากคำแนะนำเรื่องดอกเบี้ยนโยบายแล้ว IMF ยังเตือนสหรัฐว่า กำลังประสบปัญหาการขาดดุลงบประมาณที่สูงเกินไป และแบกรับภาระหนี้สินมากเกินควร รวมถึงสหรัฐกำลังดำเนินนโยบายการค้าที่รุนแรงมากขึ้นในสงครามการค้ากับจีน จนอาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโลกได้

ในสรุปการประเมินเศรษฐกิจสหรัฐประจำปีของ IMF ระบุว่า "การขาดดุลการคลังมากเกินไป ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การขยายตัวของข้อจำกัดทางการค้าที่ยังคงดำเนินอยู่ และความคืบหน้าที่ไม่เพียงพอในการแก้ไขจุดอ่อนของการล้มละลายของธนาคารสหรัฐเมื่อปี 2566 ล้วนก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านลบที่สำคัญ"

IMF ได้ปรับลดประมาณการเติบโตของสหรัฐในปีนี้ลงเล็กน้อยเหลือ 2.6% ซึ่งลดลง 0.1% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ส่วนตัวเลขการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐ IMF คาดการณ์ว่า สัดส่วนการขาดดุลต่อ GDP จะขยายกว้างขึ้นในปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุดเดือนกันยายน) และตัวเลขการขาดดุลมีแนวโน้มอยู่ที่ประมาณ 6.7% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ 5.3%

"จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหยุดยั้งการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP การขาดดุลการคลังที่เรื้อรังของสหรัฐเช่นนี้ แสดงถึงความไม่สอดคล้องกันของนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ และต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน" IMF เตือน

อ้างอิง: cnbcbloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์