ดาวโจนส์ปิดลบ 140.53 จุด ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อ - ค้าปลีก
ดาวโจนส์ปิดลบ 140.53 จุด S&P 500 แทบไม่เปลี่ยนแปลง ตลาดหุ้นสหรัฐรอเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ทั้ง CPI, PPI และตัวเลขค้าปลีก
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ที่ 12 ส.ค.67 ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones) ปิดลบ 140.53 จุด หรือ -0.36% ปิดที่ 39,357.01 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ปิดบวก 0.23 จุด หรือ +0.00% ปิดที่ 5,344.39 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต (Nasdaq) ปิดบวก 35.31 จุด หรือ +0.21% ปิดที่ 16,780.61 จุด
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.64% และ 0.62% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยดีดตัวขึ้น 0.92% และ 0.49% ตามลำดับ
ส่วนดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ ปรับตัวลง 0.9%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ (13 ส.ค.67) ตามมาด้วยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ในวันพุธ (14 ส.ค.67) และยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ในวันพฤหัสบดี (15 ส.ค.67)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่จะทรงตัวที่ระดับ 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก "เท่ากัน" ต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. และคาดว่าภายในสิ้นปี 2567 เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 1%
ยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค. ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวเพียงเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าความอ่อนแอของยอดค้าปลีกอาจจะส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค และความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เจมส์ เอเบท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนจากบริษัทเซนเตอร์ แอสเสท แมเนจเมนท์ ในนิวยอร์ก กล่าวว่า นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทวอลมาร์ท และโฮมดีโปท์ โดยผลประกอบการเหล่านี้จะเป็นมาตรวัดความแข็งแกร่งของผู้บริโภค ส่วนดัชนี CPI ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ หากดัชนีออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ก็อาจจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด
หุ้นสตาร์บัคส์ พุ่งขึ้น 2.58% หลังมีรายงานว่าบริษัทสตาร์บอร์ด แวลู ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของสตาร์บัคส์นั้น ต้องการให้สตาร์บัคส์ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูราคาหุ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์