'ดอลลาร์สิงคโปร์' แข็งค่าสุดรอบ 10 ปี สัญญาณเฟดยิ่งฉุดดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า
'ดอลลาร์สิงคโปร์' แข็งค่าสุดในรอบ 10 ปี เป็นรองแค่ 'เงินริงกิตมาเลเซีย' หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่อง รับสัญญาณเฟดจ่อลดดอกเบี้ย
บลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ว่า ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี หลังนักลงทุนกำลังชั่งน้ำหนักความต่างระหว่างมุมมองนโยบายการเงินสายเหยี่ยวของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ที่ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย กับมุมมองสายพิราบของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย
ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และผันผวนอยู่ที่ประมาณ 1.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วงเช้าวันจันทร์นี้ (26 ส.ค.) โดยค่าเงินของสิงคโปร์แข็งค่าขึ้นประมาณ 1.5% แล้วในปีนี้ และเป็นสกุลเงินที่มีผลงานดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองจาก "ค่าเงินริงกิต" ของมาเลเซีย
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสิงคโปร์ ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือหลักในการกำหนดนโยบายการเงินนั้น ได้คงมุมมองนโยบายการเงินและทิศทางค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ในแนวแข็งค่าเอาไว้ระหว่างการประชุมครั้งล่าสุดในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
ทิศทางนี้สวนทางกับประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ที่เพิ่งกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิงว่า ถึงเวลาแล้วที่จะลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงการเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดครั้งหน้าเดือน ก.ย. และหากเฟดยิ่งลดดอกเบี้ยโดยที่ธนาคารกลางอีกหลายแห่งยังคงดอกเบี้ยที่อัตราเดิม จะยิ่งทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยกว้างขึ้นและดึงดูดนักลงทุนเข้ามาทำกำไรจากส่วนต่าง
ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของปี 2567 ในเดือนก.ค.เป็น 2-3% จากเดิมที่ 1-3% โดยอ้างถึงแนวโน้มอุปสงค์ภายนอกที่ยืดหยุ่น เศรษฐกิจที่ขยายตัวอาจช่วยหนุนค่าเงินให้แข็งค่าขึ้นต่อไป