บิ๊กแบงก์โลกเสียงแตก 'เฟด' ลดดอกเบี้ย 'รอบหน้า'
บิ๊กแบงก์ในวอลล์สตรีทเสียงแตกเรื่องทิศทาง ‘เฟดลดดอกเบี้ยหลังจากนี้’ JPMorgan เชื่อรอบหน้าก็ยัง 0.5% ด้านโกลด์แมน แซคส์ เชื่อ 0.25% ทุกครั้งไปจนถึงมิ.ย.2568
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บรรดาธนาคารยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีทกำลัง "เสียงแตก" ต่อมุมมองความเห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปหลังจากนี้ "เร็ว" และ "แรง" แค่ไหน ซึ่งกำลังทำให้เกิดความกังวลขึ้นในตลาดการเงินจนกว่าทิศทางที่ชัดเจนขึ้น
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เฟดทำเซอร์ไพรส์ประกาศใช้ "ยาแรง" ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เมื่อวันพุธที่ 18 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ (Goldman Sachs) ก็ปรับคาดการณ์ใหม่ตามมาทันทีว่าหลังจากนี้ เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงในอัตรา 0.25% "ทุกครั้ง" ของการประชุมตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 ไปจนถึงเดือนมิ.ย.2568
ในทางกลับกัน ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase) ซึ่งคาดการณ์การลดดอกเบี้ยครั้งที่ผ่านมาถูกต้องเช่นกัน กับมองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย.67 นี้ เฟดจะยังคงใช้ยาแรงต่อลดดอกเบี้ย 0.50% "อีกครั้ง" แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่ตัวเลขชี้วัดของตลาดแรงงานสหรัฐในขณะนั้นด้วย
ส่วนในตลาดนั้นบรรดานักค้าต่างให้น้ำหนักมากที่สุดกับการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งที่เหลือของปีนี้ประมาณ 0.70% และอีกเกือบ 2.00% ภายในปีหน้าจนถึงเดือนก.ย.2568 หรือ "สูงกว่า" ที่รายงานคาดการณ์ดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐ หรือ Dot Plot บ่งชี้เอาไว้ว่า อาจจะมีการลดดอกเบี้ยภายในปีนี้อีกรวม 0.5%
สำหรับมุมมองของ 9 แบงก์ใหญ่ในวอลล์สตรีท มีดังนี้
แบงก์ ออฟ อเมริกา (Bank of America)
เฟด "จะถูกกดดันให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น" โดยจะปรับลดอีก 0.75% ในไตรมาส 4 ปีนี้ และอีก 1.25% ในปีหน้า
บาเคลย์ส (Barclays)
คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนพ.ย. และเดือนธ.ค. ตามด้วยการปรับลดดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2568
แต่เมื่อพิจารณาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งบาร์เคลย์สไม่ได้คาดคิดไว้ ดังนั้นจึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2568 จะลดลงอยู่ที่ระดับ 3.50 - 3.75%
ซิตี้ กรุ๊ป (Citigroup)
ยังคงคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงอีก 0.75% ในปีนี้ โดยจะปรับลด 0.50% ในเดือนพ.ย. และอีก 0.25% ในเดือนธ.ค.
"เฟดยังสามารถรักษาสมดุลความเสี่ยงของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นได้" และซิตี้ กรุ๊ป คาดว่าในปีหน้า 2568 จะมีการทยอยลดดอกเบี้ยครั้งละประมาณ 0.25% ต่อเนื่องจนอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 3.00 - 3.25%
ดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank)
เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ในการประชุม "ทุกครั้ง" จนถึงเดือนมี.ค.2568 จากนั้นจึงจะเปลี่ยนเป็นการลดดอกเบี้ยลง 0.25% รายไตรมาส ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 3.25 - 3.50% ภายในสิ้นปีหน้า และได้ย้ำถึงสิ่งที่เฟดระบุเมื่อวันพุธ ที่ผ่านมาว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการปรับทิศทางใหม่ของนโยบายการเงิน แต่ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของวัฏจักรการลดดอกเบี้ยขนานใหญ่หลายรอบ
โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs)
เฟดจะตัดสินใจลดดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นระยะเวลานานขึ้น โดยจะลด 0.25% ตั้งแต่เดือนพ.ย. ปีนี้ ไปจนถึง มิ.ย. ปีหน้า ทำให้อัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 3.25 - 3.50% ส่วนการที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน พ.ย.หรือไม่นั้น ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง และต้องดูจากรายงานการจ้างงาน 2 เดือนถัดไปจากนี้
ก่อนหน้านี้ โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุม 2 ครั้งสุดท้ายของปี 2567 และจะดำเนินการทุกไตรมาสในปี 2567
เจพีมอร์แกน (JPMorgan)
เจพีมอร์แกนคาดการณ์ได้ถูกต้องว่าเฟดจะปรับดอกเบี้ยลงครึ่งเปอร์เซ็นต์ในสัปดาห์นี้ และยังคงยึดมั่นกับมุมมองเดิมที่จะลดอีก 0.50% ในเดือนพ.ย. แต่ทั้งนี้ยังต้องขึ้นอยู่กับว่าตลาดแรงงานจะอ่อนแรงต่อไปหรือไม่ อย่างไร
มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley)
คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% "อย่างต่อเนื่อง" จนถึงกลางปี 2568 โดยจะลด 2 ครั้งในปีนี้ และ 4 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
ทีดี ซีเคียวริตีส์ (TD Securities)
ยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ และจะลดในอัตราดังกล่าวในการประชุมทุกครั้งต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2568
เวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo)
"วัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปี 2567 เริ่มต้นด้วยความไม่แน่นอนของตลาดครั้งประวัติศาสตร์" นักยุทธศาสตร์ของเวลส์ ฟาร์โก ระบุ
ธนาคารคาดการณ์ว่าในปีแรกของวัฏจักรการลดดอกเบี้ย ในกรณีหากเศรษฐกิจสหรัฐเลวร้ายเข้าขั้น Hard landing เฟดอาจลดดอกเบี้ยลงมากถึง 3.5% แต่ถ้าไม่แย่มากเป็นเพียง Soft landing ก็อาจลดดอกเบี้ยลง 1.5% และย้ำว่าเฟดยังมีช่องทางในการผ่อนคลายนโยบายการเงินอีกมาก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์