วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (1 ก.ย. 65)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (1 ก.ย. 65)

ราคาน้ำมันดิบปรับลด เนื่องจากตลาดกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีน

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลง เนื่องจากตลาดมีความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในจีน หลังจากสถานะการณ์โควิด-19 ในจีนที่ยังคงรุนแรงส่งผลในจีนยังคุมเข้มมาตการต้านโควิดต่อไป ประกอบกับวิกฤติด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ภาคการผลิตในจีนเริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัว ในขณะที่ภาคบริการเติบโตได้ช้ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทำให้จีนกำลังเผชิญกับสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในที่สุด

+ จากการรายงาน Joint Technical Committee (JTC) ของกลุ่มโอเปคพลัส กล่าวว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดมีแนวโน้มเกินดุลกว่า 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ในเดือนก่อนหน้าถึง 1 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ประเทศสมาชิกบางส่วนเริ่มมีการเรียกร้องให้ปรับลดกำลังการผลิตลง โดยนักลงทุนยังคงจับตาดูผลจากการประชุมของกลุ่มโอเปคพลัสที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 ก.ย. นี้ 

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค. 65 ปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล  สู่ระดับที่ 418.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินปรับลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 214.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 0.111 ล้านบาร์เรล สู่ระดับที่ 111.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าลดลง 0.96 ล้านบาร์เรล
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับลดลงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินโดนีเซียปรับลดการนำเข้าน้ำมันจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง ในขณะที่อุปทานในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้นจากการเร่งผลิตของโรงกลั่นก่อนหน้านี้


ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับลดลงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากสต็อกน้ำมันดีเซลในสหรัฐฯปรับเพิ่ม สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง ในขณะที่อุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้ ที่มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันส่งออกเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง จากความผันผวนของราคา
 

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (1 ก.ย. 65)