เน้นหุ้นรายตัว (วันที่ 6 กันยายน 2565)
ตลาดหุ้นวานนี้ SET ปิดลบกรอบแคบ แม้ตลาดจะถูกกดดันจากเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ตลาดหุ้นต่างประเทศเคลื่อนไหวในแดนลบ และยังมีแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติไหลออก
แต่ดัชนีลดลงในกรอบจำกัดเท่านั้นเนื่องจากมีแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศเข้าซื้อหุ้นที่ร่วงแรงในช่วงก่อนหน้าและเข้าเก็งกำไรหุ้นที่ได้ผลบวกจากดอกเบี้ยขาขึ้น อาทิ หุ้นในกลุ่มธนาคารช่วยพยุงดัชนี
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,610 - 1,630 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังโอเปคพลัสลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตามความกังวลเศรษฐกิจถดถอยจาก FED และธนาคารกลางต่างๆเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ , การล็อกดาวน์หลายเมืองใหญ่ของจีน รวมถึง Fund flow ต่างชาติที่ชะลอตัวจะเป็นแรงกดดันภาวะตลาดให้อ่อนตัวลง
8 ก.ย. การประชุม ECB Consensus คาดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
PTTEP TOP SPRC IVL BANPU ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น + ถ่านหินทรงตัวระดับสูง
KBANK BBL SCB KTB TTB BLA อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น
BDMS BH AOT CENTEL MINT CPN AMATA WHA SPA อานิสงส์การเปิดเมือง
หุ้นแนะนำวันนี้
BANPU (ปิด 14.30 ซื้อ/เป้า 20 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาถ่านหินเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 460$/ton ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดดีมานด์เพิ่มขึ้นหลังจาก Gazprom หยุดส่งก๊าซให้ยุโรป อาจกระทบการใช้พลังงานเพื่อสร้างความอบอุ่นในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
GFPT (ปิด 16.60 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 19 บาท) แนวโน้มงบ 3Q22 ขยายตัวต่อเนื่องจาก High season ของธุรกิจขณะที่ราคาไก่ยังปรับตัวขึ้นและทรงตัวอยู่ในระดับสูง ด้านต้นทุนวัตถุดิบมี แนวโน้มลดลงหนุนมาร์จิ้น
บทวิเคราะห์วันนี้
AH, AMATA, SCB
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) เงินเฟ้อไทยพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน คาดหนุนแบงก์ชาติเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย: ก.ทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.86% จาก 7.61% จากการสูงขึ้นของราคาพลังงานและอาหาร ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.15% จาก 2.99% ในเดือน ก.ค. อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นดังกล่าวคาดว่าจะผลักดันให้แบงก์ชาติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ก.ย. นี้
(+) กลุ่มน้ำมัน - OPEC+ ลดการผลิต 1 แสนบาร์เรลต่อวันสวนทางกับที่เราคาดว่าจะเพิ่มการผลิต: กลุ่ม OPEC+ มีมติให้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบจำนวน 1 แสนบาร์เรลต่อวัน สวนทางกับที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มการผลิตที่ระดับ 1 แสนบาร์เรลต่อวันตามเดิม การลดการผลิตในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพยุงราคาน้ำมันหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาและนับเป็นการลดกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
(-) จีนคุมโควิดเข้ม ล่าสุดสั่งล็อกดาวน์เมืองกุ้ยหยางในมณฑลกุ้ยโจว: เนื่องจากเมืองกุ้ยหยางพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 132 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 28 รายจากวันอาทิตย์ โดยกุ้ยหยางมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 6.1 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่ง การเดินหน้าใช้มาตรการ Zero Covid แบบเข้มงวดจะกดดันให้กิจกรรมและ ศก.ของจีนชะลอตัวถือเป็นสัญญาณไม่ดีต่อ ศก.โลก