จับตา CPI สหรัฐ หุ้นรายงานพิเศษ SISB (13 ก.ย. 2565)
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อ +11 จุด ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด +18 จุด เป็นการปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จากการที่ตลาดคาดการณ์ตัวเลข CPI สหรัฐ ที่ 8.0% เป็นการปรับตัวลงจากเดือนก่อนที่อยู่ 8.5%
โดยจะรายงานในวันที่ 13 ก.ย. ทำให้ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,665.74 จุด +11.12 จุด +0.67% มูลค่าการซื้อขาย 62,508.10 ลบ. ต่างชาติ +2,067.38 ลบ. TFEX +32,378 สัญญา ตราสารหนี้ -899.24 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 229.63 จุด +0.71% ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นทุกกลุ่ม นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ +1.1% ปิดที่ 87.78 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้นได้หนุนดัชนี FTSE 100 แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ แม้มีการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษขยายตัวน้อยกว่าคาดในเดือนก.ค.ก็ตาม
+ เฟด สาขานิวยอร์ก เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐสำหรับระยะเวลา 1 ปีและ 3 ปีข้างหน้าลดลงอย่างมากในเดือนส.ค.บ่งชี้ความสำเร็จของเฟดในการสกัดการพุ่งขึ้นของคาดการณ์เงินเฟ้อ
+ SCB EIC ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยเริ่มมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง และจะกลับมาใกล้กรอบเป้าหมายของ ธปท. ในปี 2566 เนื่องจากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดที่เริ่มชะลอลงในช่วงที่ผ่านมา
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 619 ราย มีผู้เสียชีวิต 10 ราย รักษาหาย 1,827 ราย
ปัจจัยลบ
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 10% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ชาวอเมริกันอาจต้องเผชิญกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงฤดูหนาวนี้ เนื่องจาก EU ลดปริมาณการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า สหรัฐวางแผนที่จะจำกัดการส่งออก เซมิคอนดักเตอร์ที่นำไปใช้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือผลิตชิปให้กับจีน
- กกพ.ย้ำคนไทยหมดโอกาสใช้ไฟฟ้าราคาถูก หลังก๊าซธรรมชาติราคาถูกจากอ่าวไทยลดลง จำเป็นต้องนำเข้าก๊าซราคาแพงมาผลิตไฟฟ้า
- ททท. กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์ และหากยังคงมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงปลายเดือนก.ย. 2565 นักท่องเที่ยวคนไทยอาจเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทางบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กร กลุ่มอบรม ประชุม สัมมนา
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังช่วยพยุงตลาด คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,660-1,670 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
• ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว+ขยายวีซ่านักท่องเที่ยว : ERW CENTEL AWC
• วิกฤติพลังงานยุโรป+จีนเริ่มใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น : PRM VL BANPU LANNA AGE
• นายกฯ ออกเกณฑ์ให้ต่างชาติได้ BOI ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ : WHA AMATA ROJNA
• หุ้นซ่อมแซมน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA COTTO DCC TASCO
หุ้นรายงานพิเศษ
SISB (Bloomberg Consensus 16.50 บาท)
กำไรฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป
•รายได้ 2Q65 เติบโตสู่ 307 ลบ. +14%YoY และ +7%QoQ ตามจำนวนนักเรียนที่เติบโตสู่ 2.73 พันคน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลงเล็กน้อยจาก 49.2% ใน 1Q65 สู่ 48.9% เนื่องจากรับรู้ค่าเสื่อมราคาของโรงเรียน SISB ธนบุรีเฟส 2 อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาเป็นตัวเงินปรับขึ้น 8 ลบ. จาก 1Q65 สู่ 148 ลบ. ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไร 2Q65 ที่ 78 ลบ. เติบโต 20%YoY และ 24%QoQ
•ผู้บริหารปรับเป้าจำนวนนักเรียนปี 2565 ขึ้นจาก 2,750 คนสู่ 3,000 คน หลัง 2Q65 จำนวนนักเรียนถึงเป้าปี 2565 ที่ 2,730 คน แต่ยังคงเป้านักเรียนปี 2566 ที่ 3,350 คน แม้ว่าโรงเรียนใหม่ที่ระยองและนนทบุรีจะแล้วเสร็จปีหน้าซึ่งมีนักเรียนสนใจสมัครเรียนราว 400-500 คนซึ่งสูงกว่าที่ทางบริษัทคาดไว้ก็ตาม นอกจากนี้บริษัทมีการปรับเพิ่มค่าเล่าเรียน 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนใน 3Q65 ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยเป็น Upside ต่อประมาณการในอนาคต
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2H65 เนื่องจากจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ อีกทั้งมีการปรับเพิ่มค่าเล่าเรียนตั้งแต่เดือน ส.ค. 65 และปี 66 เตรียมเปิดโรงเรียนใหม่อีก 2 แห่งเป็นปัจจัยหนุนต่อการเติบโตในระยะยาว เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) ICHI ( Bloomberg Consensus 10.95 บาท) จับตายอดขายไตรมาส 3/2565 เติบโต 30% ต่อไตรมาส หลังเปิดประเทศท่องเที่ยว กำลังซื้อฟื้นตัว เล็งออกสินค้าใหม่ 5 รายการ กระตุ้นยอดขายได้เพิ่มดันผลงานโค้งท้ายปีโตอีก 30% มั่นใจรายได้ปี 2565 แตะ 6.5 พันล้านบาท ย้ำไม่ได้รับผลกระทบการขึ้นภาษีน้ำตาล พร้อมติดปีกโกอินเตอร์ เกาหลี-รัสเซีย-ตะวันออกกลาง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) D ( Bloomberg Consensus 8.15 บาท) เดินหน้าขยายฐานลูกค้าอาหรับมองมีกำลังซื้อสูง แถมบาทอ่อนหนุนต่างชาติแห่ใช้บริการเพียบ เร่งทำตลาดผ่านโซเชียลดึงดูดกลุ่มลูกค้าเพิ่ม ฟากผู้บริหารส่งสัญญาณแนวโน้มรายได้ไตรมาส 3/2565 ดีต่อเนื่อง ท่องเที่ยวหนุน ล่าสุดยอดทะลุ 4 ล้านคน จับตา BIDH โกยมาร์จิ้นต่อ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) STANLY (Bloomberg consensus 206.00 บาท) เผยคำสั่งผลิตรถรุ่นใหม่ทั้งรถ 4 ล้อและ 2 ล้อ สูงมาก แต่ห่วงสถานการณ์ขาดแคลนชิป กังวลจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันกำลังผลิตอีกครั้ง จัดทีมเดินสายเจรจาผู้ผลิต EV ที่จะเข้ามาตั้งโรงงานผลิตในไทย 2-3 ราย มั่นใจเป็น New S-Curve ของบริษัทในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) JKN (Bloomberg consensus 4.60 บาท) เดินเกมปั้น JKN-CNBC สู่สถานีข่าวเศรษฐกิจตลอด 24 ชั่วโมง ผนึกกลุ่ม IPTV ขยายฐานกลุ่มผู้ชม ประเดิมจับมือ AIS PLAY ที่มีฐานผู้ชมมากกว่า 8 ล้านราย เพื่อเจาะคนข่าวและนักลงทุนรุ่นใหม่ สร้างมิติใหม่การรับชมให้แก่ผู้ชมเกาะติดข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ทั่วทุกมุมโลก (ที่มา ทันหุ้น)