กังวลปัจจัยเดิมๆ (26 กันยายน 2565)

กังวลปัจจัยเดิมๆ (26 กันยายน 2565)

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ SET Index ปิดที่ 1,631.71 จุด -13.58 จุดถึงแม้ได้รับข่าวดีจาก ศบค. ชุดใหญ่  มีมติให้ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และใช้พ.ร.บ. โรคติดต่อ อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่กังวลเศรษฐกิจ

อีกทั้งนักลงทุนกังวลค่าเงินบาทที่อ่อนค่า อาจกระทบกับเงินทุนต่างชาติไหลออก

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,620 / 1,610 จุด ตามความกังวลเศรษฐกิจถดถอยหลังธ.กลางต่างๆรวมถึง FED ยังคงคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อส่งผลให้ US Bond yield ,เงินดอลล่าร์สหรัฐพุ่งขึ้น และ Fund flow ต่างชาติไหลออก (Net sell 1.7 หมื่นลบ. MTD.) นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจะกดดันต่อกลุ่มพลังงานและทิศทางการลงทุน 

28 ก.ย. ติดตามการประชุมกนง.คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1%

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  KBANK BBL SCB KTB TTB  BLA TLI อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น  

  AOT CENTEL ERW BA AAV อานิสงส์มาตการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ 

  กลุ่มเดินเรือ PSL TTA ค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น 

 

หุ้นแนะนำวันนี้

  EPG (ปิด 10.30 ซื้อ/เป้า 14.5 บาท) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ทุกกลุ่มธุรกิจกลับสู่โหมดฟื้นตัว ระยะสั้นมี Sentiment บวกจากราคาน้ำมันลดลงและค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นบวกกับ EPG โดยตรงเนื่องจาก 60% ของรายได้มาจากต่างประเทศ

  KBANK (ปิด 151.5 ซื้อ/เป้า 170 บาท) ได้ประโยชน์จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น โดย KBANK มีโครงสร้างเงินฝากที่มีต้นทุนต่ำ (CASA) ในสัดส่วนที่สูงขณะที่โครงสร้างสินเชื่อมีสัดส่วนของดอกเบี้ยลอยตัวสูงกว่า Fixed rate จึงได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นสูงกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารอื่น

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

LH, SAT, Healthcare sector

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (+/-) ติดตามประชุมแบงก์ชาติ (BoT meeting) คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%: BoT Meeting จะมีขึ้นในวันที่ 28 ก.ย. นี้ เราคงมุมมองเดิมโดยคาดว่า BoT จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นคล้ายกับ ธ.กลางทั่วโลก ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแตะระดับ 37.53 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่ามากสุดในรอบ 16 ปี ยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่จะผลักดันให้แบงก์ชาติต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.50%

  (+/-) 30 ก.ย. ศาลฯ นัดตัดสินวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ: ยังคาดการณ์ทิศทางได้ยากสำหรับคำตัดสิน แต่หากเป็นกรณีเลวร้าย ท่านนายกฯ ต้องสิ้นสภาพการเป็นนายกฯ และ ทำให้ ครม. ต้องสิ้นสภาพทั้งคณะ จะเป็น Sentiment ลบกับตลาด แต่คาดผลกระทบจำกัดเนื่องจากภาพใหญ่นักลงทุนให้น้ำหนักไปที่การเลือกตั้งครั้งใหม่แล้ว

  (+/-) ปลายสัปดาห์ติดตาม PCE Price Index จับสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐ: ดัชนี PCE Price Index เป็นตัวแทนเงินเฟ้อของเฟดในการพิจารณาปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายหากดัชนีดังกล่าวปรับตัวลงจะช่วยคลายกังวลต่อการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อให้กับตลาด เบื้องต้น Consensus คาด PCE Price Index เดือน ส.ค. จะลดลงสู่ระดับ 6.2% จาก 6.3% ในเดือน ก.ค.