วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (3 ต.ค. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากแนวโน้มอุปสงค์ลดลง ท่ามกลางคาดการณ์การปรับลดกำลังการผลิตของโอเปคพลัส
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลด หลังตลาดผันผวนอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย อีกทั้งความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินในสหราชอาณาจักร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 604 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 1 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 159 แท่น
- แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อต้นสัปดาห์ แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน จากคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปคและพันธมิตร (OPEC+) จะพิจารณาลดโควตาการผลิตลงระหว่าง 500,000 ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 5 ต.ค. นี้ อีกทั้งนักวิเคราะห์คาดว่าอุปทานจะตึงตัวมากขึ้น หากชาติตะวันตกเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียเตรียมที่จะผนวก 4 ดินแดนของยูเครนไปเป็นของรัสเซีย
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ของอินโดนีเซียและมาเลเซียที่ปรับลดลง โดยการน้ำมันเบนซินจากสิงคโปร์ของอินโดนีเซียและมาเลเซียลดลง 71.14% และ 29.67% ตามลำดับ ในขณะที่อุปทานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการส่งออกของจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความไม่แน่นอนของโควตาการส่งออกของจีน อย่างไรก็ตาม อุปทานในภูมิภาคยังคงตึงตัวเนื่องจากอุปสงค์ที่ปรับตัวขึ้นจากทางยุโรป ทำให้อินเดียและตะวันออกกลางส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังยุโรปมากขึ้น