ปรับขึ้น ซื้อเก็งกำไร PTTEP PRM MAKRO (14 ธ.ค. 2565)
คาดดัชนีฯ ปรับขึ้น โดยมีแนวรับ 1,615/1,610 จุด แนวต้าน 1,635/1,640 จุด รับรายงาน เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ย. เติบโตต่ำกว่าคาด ที่ 7.10% YoY (Vs คาด 7.30% YoY) ส่งผลต่อการประชุมเฟดคืนนี้
คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% เป็น 4.5% ด้วยโอกาส 79.4% และปรับขึ้นอีกครั้งละ 0.25% ในการประชุมวันที่ 1 ก.พ. และ 22 มี.ค. ด้วยโอกาส 52.4% และ 47% และสิ้นสุดดอกเบี้ยขาขึ้นที่ 5% (Fed Fund Futures จาก CME Group) ด้านสัญญาณทางเทคนิค ดัชนีฯ จะจบการพักฐาน หากสามารถปิดเหนือ 1,635 จุด โดยมีเป้าหมายที่ 1,650 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP PRM MAKRO
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ
+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC CK CENTEL BH BEM CPALL AOT EA PTG CPN MINT KTB TTB BDMS PLANB (ขำย TCAP)
+ Daily Recommendations: PTTEP (รับการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลก หลังจากการปิดท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนจากแคนาดาสู่สหรัฐฯ) PRM (ปัจจัยบวกจากการขยายกองเรือและอุปสงค์การใช้เรือบรรทุกน้ำมันที่ฟื้นตัว) MAKRO (ได้ประโยชน์จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่)
+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนอาหารสดที่ลดลง: M MINT RBF
+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวรถ Tesla ในไทย: KKP TISCO TCAP
+ หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ: ERW CENTEL AWC AOT AAV BA BAFS CPALL CRC SNNP
ปัจจัยบวก
+ US: รายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ที่ 7.10% YoY ต่ำกว่าคาดที่ 7.30% YoY จากราคาพลังงานและราคารถมือสองที่หดตัว MoM ขณะที่ราคาที่อยู่อาศัย Shelter ขยายตัวในอัตราที่ลดลง (+0.6% MoM vs เดือน ต.ค. +0.8% MoM) ส่งผลให้นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.1% (จากเดิม 35.1%) ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2023
ปัจจัยลบ
- USDTHB: การแข็งค่าของค่าเงินบาทเริ่มชะลอตัวบริเวณ 34.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากเครื่องมือ KTX Carry Trade ปรับขึ้นสู่ระดับ 1.5 S.D. ใกล้เคียงระดับ Overbought ที่ 3.0 S.D. ส่งผลให้ระยะสั้นนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย
ประเด็นสำคัญ
- Thailand: Opportunity Day: VL PJW AIMCG VIBHA WP KJL
- UK: เงินเฟ้อเดือน พ.ย. คาดที่ 10.90% ลดลงจาก 11.10% ในเดือน ต.ค.
- US: FOMC Meeting คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.50%
Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: SET Index ยังคงมีความพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,630 จุด ในช่วงเช้า ก่อนจะเผชิญแรงขายทำกำไรลงมาและแกว่งตัวในกรอบ 1,621–1,627 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,625.91 จุด +2.78 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มพาณิชย์ +0.95% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +0.73% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +0.41% กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม +0.45% กลุ่มธนาคาร +0.30% หุ้นบวก >4% SGC ITC TEAM TMC TKN BRI TEKA SE AKP INET หุ้นลบ >4% UBA PRI MTW NCAP SYNEX TH IP JTS POLY AGE MORE
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: DJIA +0.30% S&P500 +0.73% NASDAQ +1.01% นำบวกโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มพลังงาน กลุ่มผู้ผลิตยา และกลุ่มผู้ผลิตเครื่องบิน ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน พ.ย. ที่ออกมาต่ำกว่าคาด (7.10% YoY vs คาด 7.30% YoY) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และส่งผลบวกต่อหุ้น Growth Stocks เช่น หุ้นไมโครซอฟท์, เมตา แพลตฟอร์มส์, อัลฟาเบท อะเมซอน ส่วนหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +1.42% DAX +1.34% FTSE +0.76% ตาม ตลาดหุ้นทั่วโลกที่พุ่งขึ้นแรง ขานรับสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลออัตราการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย
+ ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +USD2.22 ปิดที่ USD75.39/บาร์เรล Brent +USD2.69 ปิดที่ USD80.68/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของ สกุลเงิน USD -1.09% แตะ 103.984 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด และรายงานท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน (Keystone) ยังคงปิดต่อเนื่อง จากพบรอยรั่ว ส่วนราคาทองคำปิดบวก +USD33.20 ปิดที่ USD1,825.50/ออนซ์ จากการร่วงลงของ 10Y US Bond Yield -10bps สู่ระดับ 3.50% และการอ่อนค่าของสกุลเงิน USD
ประเด็นสำคัญ
+ US: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ย. ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวขึ้น 7.1% YoY ในเดือน พ.ย. ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3% YoY และปรับตัวขึ้น 0.1% MoM ในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าคาดที่ 0.3% MoM ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 6.0% YoY ในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าคาดที่ 6.1% YoY และปรับตัวขึ้น 0.2% MoM ในเดือน พ.ย. ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% MoM
+ UK: สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานทั่วประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% ในช่วง 3Q22 แต่ค่าจ้างขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ หากไม่นับช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กำลังจับตามองการขึ้นค่าจ้างอย่างใกล้ชิด และพยายามประเมินความเสี่ยงของปัญหาเงินเฟ้อในระยะยาว ซึ่งเกิดจากภาวะตลาดแรงงานตึงตัวในประเทศ
+ Thailand: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. 2022 อยู่ที่ระดับ 93.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ต.ค. 2022 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.1 โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ การขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาสู่ภาวะปกติ ส่งผลดีต่อการบริโภคและการใช้จ่ายในประเทศ
+ Hong Kong: ฮ่องกงยกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดของ COVID-19 เพิ่มเติม หลังจากที่จีนเริ่มผ่อนปรนนโยบาย COVID-19 เป็นศูนย์อย่างรวดเร็วฉับไวตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น และเกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางสังคมครั้งใหญ่
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: GULF MINT ERW
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: PTTEP PRM MAKRO
Derivatives: เปิด Long S50Z22 เมื่อทะลุ 990 จุด