Sideway หุ้นรายงานพิเศษ CK (23 ม.ค. 2566)
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลง ทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,672 จุด หรือ -16 จุด แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากผลการดำเนินงาน ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด และแรงขายในหุ้นกลุ่มการเงิน ค้าปลีก
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,677.25 จุด -11.23 จุด -0.67% มูลค่าการซื้อขาย 76,366 ลบ. ต่างชาติ -2,874.83 ลบ. TFEX -25,169 สัญญา ตราสารหนี้ -13,830.71 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 330.93 จุด หรือ +1.00% จากแรงซื้อเก็งกำไรหลังร่วงลง 3 วันติดต่อกัน และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นมากกว่า 2% ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสช่วยหนุนหุ้นเน็ตฟลิกซ์ และหุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลปรับตัวขึ้นหลังประกาศปรับลดพนักงาน แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 2.7%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ +1.22% ปิดที่ 81.31 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 1.8% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันดิบจากจีน หลังการยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
+ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจแห่งองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) มีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจจีนในปี 2566 นี้ โดยคาดว่า GDP ของจีนมีโอกาสเติบโตมากกว่า 5%
+ รัฐบาลจีนจะอนุญาตให้บริษัททัวร์และบริษัทท่องเที่ยวในระบบออนไลน์สามารถจัดส่งนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.
ปัจจัยลบ
- สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 1.5%MoM สู่ระดับ 4.02 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2553 โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันโดยยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้านและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
- WHO เผยแพร่รายงานประจำสัปดาห์ระบุว่า จีนรายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค. พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด
- ประธานสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย ออกโรงเตือนว่า การที่ชาติตะวันตกจัดหาอาวุธร้ายแรงให้แก่ยูเครน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อดินแดนของรัสเซีย จะนำโลกไปสู่หายนะ
- IMF ออกแถลงการณ์ระบุว่า ความล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสหรัฐ รวมทั้งเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ IMF ยังได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
- กระทรวงพาณิชย์รายงานสถิติการค้าของไทยกับประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) หลังเปิดใช้ครบ 1 ปีแรกพบว่าไทยขาดดุลการค้ากับประเทศคู่ค้าที่เป็นสมาชิกกว่า 9 แสนล้านบาท
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Sideway ออกข้าง เนื่องจากตลาดเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,670-1,685 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
• การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องและจีนเปิดประเทศ : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
• หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเริ่มคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
• หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
• หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
• หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BBL COM7 CPALL
หุ้นรายงานพิเศษ
CK – Bloomberg Consensus 28.00 บาท
“แนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 อ่อนลงตามปัจจัยฤดูกาล แต่คาดปี 66 ฟื้นโตแรง”
•เราคาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 โต YoY แต่อ่อนตัว QoQ โดยโต YoY สนับสนุนจากรายได้ก่อสร้างที่คาดจะฟื้นโตดีจากการทยอยรับรู้งานโครงการเดิมและเริ่มรับรู้งานใหม่ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และโครงการรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการจะหดตัว QoQ จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทลูก (CKP, BEM) ที่อ่อนลงตามปัจจัยฤดูกาล และเป็นไตรมาสที่ไม่ได้รับเงินปันผลจาก TTW อย่างไรก็ตาม คาดกำไรบางส่วนที่ลดลงจะถูกชดเชยจากการที่บริษัทขายเงินลงทุนในหุ้น BEM
•ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อผลประกอบการ 4Q65 แต่มองบวกต่อแนวโน้มปี 66 จากรายได้ก่อสร้างที่คาดจะเติบโตดี ตาม Backlog ที่คาดจะทำ New High แตะระดับ 2.4 แสนลบ. จากปัจจุบันที่ราว 6 หมื่นลบ. จาก 2 โครงการหลัก คือ 1.รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และ 2.โครงการเขื่อนหลวงพระบาง โดยปัจจัยบวกระยะสั้น คือ ความคืบหน้าของการฟ้องร้องโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งล่าสุดผ่านด่านสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะส่งให้บอร์ด รฟม. พิจารณาก่อนส่ง คมนาคม เสนอ ครม. เพื่อเซ็นสัญญา ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จภายในช่วง 1Q66 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรงวด 4Q65 ราว 228 ลบ. +118%YoY -60%QoQ ส่วนปี 66 คาด 1,679 ลบ. +63%YoY
หุ้นมีข่าว
(+) AH (Bloomberg consensus 40.00 บาท) ออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง ลูกค้าใหม่ส่งออเดอร์ปีนี้ กลุ่มอีวีเข้าหา หลังวินฟาสต์จ้างชิ้นส่วนตัวถัง ชูมีความพร้อมและศักยภาพ เดินหน้าเจรจาดีลร่วมทุน และซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจยานยนต์ ตลาดมาเลเซียฟื้น ดันปีนี้รายได้โต 10-15% สูงกว่าอุตสาหกรรม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) III (Bloomberg Consensus 17.22 บาท) "ทิพย์ ดาลาล" มั่นใจภาพรวมปีนี้ผลงานเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ปริมาณการขนส่งฟื้น ด้านจีนเปิดประเทศดันดีมานด์ หนุนขนส่งพ้นจุดต่ำสุด เตรียมรับรู้รายได้จากทุกบริษัทในเครือ แย้มมีเจรจาพันธมิตรร่วมทุน-ซื้อกิจการ 1-2 ราย คาดชัดเจนปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CEYE (ราคาเหมาะสม 7.12 บาท) ส่งสัญญาณธุรกิจปีนี้สดใส ลูกค้าลงทุนทำการตลาดโฆษณาสินค้าพรึ่บ จ้องลุยธุรกิจโปรดักชั่น ชงผู้ถือหุ้นรับโอนกิจการเดือนมีนาคมนี้ เชื่อลดต้นทุนผลิต แถมเก็บแบ็กล็อกบุ๊กเงินระยะยาว ด้านแม่ทัพหญิง "สุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์" มองรายได้ปี 2566 โต 50% คาดปริมาณการโฆษณาพุ่งสูงขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) D (Bloomberg consensus 8.93 บาท) ท่องเที่ยวจีนหนุนบริการทันตกรรม บิ๊กบอส "พรศักดิ์ ตันตาปกุล" เดินหน้าเปิดสาขาเพิ่ม 5 แห่ง จับกลุ่มคนไทยกำลังซื้อสูง จากปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 15 แห่ง คาดใช้งบราว 25 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2566 เติบโตราว 20% ลุยบริการเต็มสูบ (ที่มา ทันหุ้น)