KKP ผลประกอบการ 4Q65: NPL เพิ่มขึ้นอย่างมาก
กำไรสุทธิของ KKP ใน 4Q65 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (-31% QoQ, -29% YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 5% แต่ต่ำกว่า consensus ถึง 25% ในขณะที่กำไรสุทธิเต็มปีอยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท (+20%)
สินเชื่อขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
สินเชื่อรวมขยายตัว 3.5% QoQ และ 21% YoY โดยสินเชื่อที่ขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้นมีเพียง SME ในกลุ่มท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งเมื่อแยกสินเชื่อเป็นรายกลุ่มพบว่า
- สินเชื่อธุรกิจทรงตัว QoQ และเพิ่มขึ้น 22% YoY
- สินเชื่อ H/P ขยายตัว 3% QoQ และ 19% YoY
- สินเชื่อจดจำนองเพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 38% YoY
- สินเชื่อ SME ขยายตัว 7% QoQ และ 19% YoY (ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มโรงแรม)
Yield สินเชื่อ และ margin เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เนื่องจากธนาคารยอมรับความเสี่ยงมากขึ้นทำให้ yield สินเชื่อและ margin เพิ่มขึ้นเกือบ 50bps QoQ และ YoY
non-NII แข็งแกร่งเพราะค่าธรรมเนียม bancassurance และนายหน้าค้าหลักทรัพย์
รายได้ค่าธรรมเนียมอขง KKP กลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งใน 4Q65 จากค่าธรรมเนียม bancassurance และ ค่าธรรมเนียมในธุรกิจหลักทรัพย์ ในขณะที่ค่าธรรมเนียม IB และธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ลดลง ทั้งนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมเต็มปียังคงลดลง 2% เพราะรายได้จากธุรกิจการลงทุน และ IB ลดลง
NPLs ของสินเชื่อ H/P เพิ่มขึ้นอย่างมาก
NPL โดยรวมเพิ่มขึ้น 10% QoQ และ 28% YoY ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจ H/P โดยเพิ่มขึ้นถึง 26% QoQ และ 73% YoY ส่วน NPL จากสินเชื่อ SME และสินเชื่อจดจำนองเพิ่มขึ้น 12% QoQ และ 22% YoY ในขณะที่ผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมายังคงเพิ่มขึ้นเป็น 742 ล้านบาทใน 4Q65 (จาก 497 ล้านบาทใน 3Q65) ทำให้ผลขาดทุนรายการนี้เต็มปีอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ คุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง ทำให้ credit cost เพิ่มขึ้นเป็น 218bps (2x จากไตรมาสก่อนหน้า) และ 140bps ในปี 2565
Valuation & Action
การเน้นนโยบายเลือกเติบโตกลุ่มเสี่ยง KKP สะท้อนต่อผลประกอบการของ KKP จึงมีแนวโน้มจะผันผวนสูงเพราะคุณภาพสินทรัพย์ และเนื่องจากมี NPL ก้อนใหญ่ ผลการดำเนินงานจึงจะถูกกดดันจาก คชจ.สำรอง (credit cost) แต่เนื่องจากราคาหุ้นซื้อขายที่ PE ต่ำ ช่วยพยุงราคาขาลง เรากำลังอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไร คำแนะนำ และราคาเป้าหมายของ KKP
Risks
กำไรจากการค้าหลักทรัพย์ลดลง, ผลขาดทุนจากการขายรถที่ยึดมา.