วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (8 ก.พ. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดคลายกังวลเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3% หลังนักลงทุนคลายความกังวลภายหลังจากความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ที่ระบุว่าภาวะเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องแนวโน้มของการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมันในจีนที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
+ สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ก.พ. 66 ปรับลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งตรงกันข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
+ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์เกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่อาจตึงตัว หลังจากตุรกีสั่งระงับการส่งออกน้ำมันดิบไปยังท่าเรือเจย์ฮัน ภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โดยท่าเรือเจย์ฮันมีปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินการส่งออกไปยังโรงกลั่นในแถบยุโรป
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนในเดือน ก.พ. มีแนวโน้มลดลง จากอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นภายหลังการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม COVID-19
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันดีเซลในยุโรปและรัสเซีย อยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยผู้ค้าน้ำมันยังคงเร่งทยอยรับสินค้าจากท่าเรือของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ก่อนถึงกำหนดในวันที่ 5 ก.พ. ที่สหภาพยุโรปจะห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันจากรัสเซีย