Healthcare Sector ปีที่ดีสำหรับโรงพยาบาลใหญ่
แนวโน้มธุรกิจปี 2566 ของบริษัทในกลุ่มโรงพยาบาล
ผลประกอบการ 4Q65 แข็งแกร่งเกินคาด
โดยสรุปแล้ว หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เราศึกษาอยู่มีกำไรสุทธิรวม 5.6 พันล้านบาทใน 4Q65 สูงกว่าประมาณการของเรา 13% เนื่องจากรายได้และ EBIT margin สูงกว่าคาด โดย BH และ BDMS ยังคงเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มใน 4Q65 (Figure 3)
มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ใน 2H65 ออกมาน่าพอใจ เราพบว่านักวิเคราะห์ในตลาดปรับเพิ่มประมาณการกำไรของกลุ่มโรงพยาบาลขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Bloomberg consensus มีการปรับประมาณการกำไรของกลุ่มโรงพยาบาลในปี 2566F ขึ้นมาแล้ว 4% YTD (Figure 4)
โรงพยาบาลขนาดใหญ่จะได้อานิสงส์จากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากปี 2566F เป็นต้นไป
หลังจากที่ประเทศไทยกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มที่ใน 4Q65 เราพบว่าผลประกอบการของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ (BDMS* และ BH*) ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับที่เราคาดเอาไว้ว่าโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติสูงจะเป็นกลุ่มหลักที่ได้อานิสงส์จากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ โดยกำไรสุทธิของ BDMS และ BH ใน 4Q65 เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 18.1% YoY และ 152.6% YoY ตามลำดับ หลังจากที่จำนวนผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นจากการกลับมาเปิดประเทศ ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 7,848% YoY ใน 3Q65 และ 1,498% YoY ใน 4Q65
กำไรของโรงพยาบาลขนาดเล็กจะอยู่ในช่วงการปรับตัวสู่ระดับปกติใน 1H66 แต่จะมี upside จากการปรับค่ารักษา SSO
สำหรับโรงพยาบาลขนาดเล็ก เราคาดว่าผลการดำเนินงานโดยส่วนใหญ่จะยังคงไม่ตื่นเต้นใน 1H66 จากฐานกำไรที่สูงใน 1H65 จากการระบาดระลอกสุดท้ายของ COVID-19 ในประเทศไทยซึ่งเกิดจากสายพันธุ์ Omicron ทั้งนี้ โรงพยาบาลขนาดเล็กได้อานิสงส์จากการระบาดของ COVID-19 ใน 1H65 โดยรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 คิดเป็นสัดส่วนถึง 40-60% ของรายได้รวม ดังนั้น จึงเป็นเรื่องแน่นอนที่ผลประกอบการจะชะลอตัวลง เนื่องจากรายได้จาก COVID-19 ลดลงอย่างมาก ทั้งนี้ โรงพยาบาลขนาดเล็กเหล่านี้จะเน้นไปที่ i) การรักษาผู้ป่วยที่ไม่เกี่ยวกับ COVID ii) การดูแลผู้ป่วยที่มี intensity สูง และ iii) การให้บริการที่หลากหลายเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นหลังสถานการณ์โรคระบาด อย่างไรก็ตาม เราเห็นสัญญาณบวกในหลายบริษัท เนื่องจากรายได้จากบริการที่ไม่เกี่ยวกับ COVID สูงกว่าระดับก่อน COVID ระบาดในปี 2562 นอกจากนี้ เราคาดว่าสำนักงานประกันสังคม (SSO) จะพิจารณาปรับเพิ่มค่ารักษาพยาบาลขึ้นจากอีก 10% ตั้งแต่ปี 2566 ไป (ปรับครั้งสุดท้ายไปเมื่อปี 2560 และ 2563) ซึ่งจะทำให้ประมาณการรายได้และกำไรของโรงพยาบาลที่ให้บริการผู้ป่วยประกันสังคมมี upside อีก 3%-4% และ 4%-5% ต่อปี ตามลำดับ
Valuation & Action
เรายังคงมองบวกกับโอกาสที่กลุ่มโรงพยาบาลจะได้อานิสงส์จาก i) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ii) platform โรงพยาบาลที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ป่วยชาวไทย ซึ่งมีทั้งผู้ป่วยที่ชำระเงินสด และผู้ป่วยประกันสังคม เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Overweight โดยเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ที่ 36.50 บาท
Risks
COVID-19 ระบาด, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้