CPF - IPO ของบริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 CPF ได้แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนไม่เกิน 500.01 ล้านหุ้น
แบ่งเป็น i) หุ้นสามัญออกใหม่จำนวนไม่เกิน 66.7 ล้านหุ้น ii) หุ้นสามัญใน CPFGS บางส่วนที่ถือโดย CPF จำนวนไม่เกิน 316.655 ล้านหุ้น และ iii) หุ้นสามัญใน CPFGS บางส่วนที่ถือโดย บริษัท ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด หรือ “CPM” ( CPF ถือหุ้นอยู่ 100%) อีกจำนวนไม่เกิน 116.655 ล้านหุ้น ทั้งนี้ จำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมดคิดเป็นไม่เกิน 30% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดใน CPFGS ภายหลังการเสนอขาย IPO เสร็จสมบูรณ์ (ที่จำนวน 1,666.7 ล้านหุ้น)
CPFGS ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของ CPF ธุรกิจร้านอาหาร (เชสเตอร์สและห้าดาว) รวมทั้งธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนั้น CPFGS ยังเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าและผู้ส่งออกแต่เพียงผู้เดียว (exclusive distributor และ exclusive exporter) จากฐานการผลิตของ CPF ในประเทศไทยสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์สดและผลิตอาหารแปรรูป ทั้งนี้ CPF มีแผนจะใช้เงินสดที่ได้รับภายหลังจากการ IPO ของ CPFGS เพื่อการจ่ายคืนหนี้และการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ทั้งนี้ CPF จะมีการจัดสรรสิทธิ์จองซื้อหุ้น IPO ตามสัดส่วนการถือหุ้นใน CPF (pre-emptive rights) ด้วย โดยจะประกาศรายละเอียดให้ทราบต่อไป
คาดผลเชิงบวกในระยะสั้นและเกิดผล dilution effect ในระยะยาว
เราให้น้ำหนักเป็นกลางต่อการทำธุรกรรม IPO นี้ โดยคาด CPF จะบันทึกกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากการ IPO ในปีนี้ ประเมินที่ราว 1.9-2.9 หมื่นล้านบาท (คิดเป็น 135%-205% ของกำไรสุทธิปี 2566F) ในแง่การรับรู้กำไรสุทธิ CPFGS จะยังคงเป็นบริษัทย่อยของ CPF ภายหลังจาก IPO อย่างไรก็ตาม เราคาดผลเชิงลบจาก dilution effect ต่อประมาณกำไรสุทธิของ CPF ในปี 2567F (30% อิงจากสมมติฐานการเสนอขายหุ้นได้ที่ 500.01 ล้านหุ้น) จะมากกว่าประโยชน์ที่ได้จากภาระดอกเบี้ยที่ลดลง ทั้งนี้ เราคาดผลลบสุทธิที่มีต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F ของเราที่ประมาณ 4-7% (Figure 2)
คาดทำให้งบดุลแข็งแกร่งขึ้นโดย IBD/E จะลดลงอยู่ที่ 1.3-1.4x
ภายใต้สมมติฐานว่า CPF จะนำเงินสดที่ได้จากการทำ IPO ของ CPFGS ทั้งหมดไปการจ่ายคืนหนี้เงินกู้คาดอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาะดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E) และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ (net debt/E) มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ราว 1.30-1.37x และ 1.64-1.72x ตามลำดับ จากเดิมคาดที่ 1.51x และ 1.88x ในปี 2566F
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2566 ที่ 27.50 บาท (ประเมินมูลค่าธุรกิจค้าปลีกที่ 18.40 บาท และธุรกิจการเกษตรที่ 9.10 บาท) ทั้งนี้ เราคาดผลกระทบของธุรกรรมดังกล่าวข้างต้นนี้ จะมี downside risk ต่อการประเมินราคาเป้าหมายของเราที่ราว 3-6%
Risks
ต้นทุนอาหารสัตว์แพง เศรษฐกิจโลกถดถอยและความผันผวนของราคาเนื้อสัตว์