น้ำมันกดตลาด หุ้นรายงานพิเศษ YONG (21 เม.ย. 66
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และค้าปลีก โดยนักลงทุนติดตามการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน ของหุ้นกลุ่มธนาคาร พร้อมทั้งติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,565.10 จุด -15.63 จุด -0.99% มูลค่าการซื้อขาย 57,260 ลบ. ต่างชาติ -738.42 ลบ. TFEX -16,116 สัญญา ตราสารหนี้ -1,826.17 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ วิทยุการบินฯ สรุปปริมาณเที่ยวบินทั่วประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่าง 11-17 เมษายน 2566 มีเที่ยวบินรวม 13,569 เที่ยวบิน +59%YoY แต่ยังต่ำกว่าในช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่เป็นช่วงก่อนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประมาณ 28%
+ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่าประเมินเศรษฐกิจไทยเติบโตดีในครึ่งปีหลังโดยเชื่อว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลใหม่ที่ออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศและสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยที่ชัดเจนมากขึ้น
+ ฉางอัน ออโตโมบิล ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนประกาศลงทุนในไทย 9,800 ล้านบาทเพื่อสร้างฐานการผลิตรถยนต์ EV เตรียมยื่นขอรับการส่งเสริมจาก BOI
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 110.39 จุด หรือ -0.33% เนื่องจากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทเอกชนยังคงเป็นปัจจัยฉุดตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยก่อนการประชุม FED ในเดือนหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.70 ดอลลาร์ หรือ -2.1% ปิดที่ 79.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 245,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย
- นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดยังคงต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นาเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ร่วงลง 1.2% สู่ระดับ 108.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังผันผวนระหว่าง โดยนักลงทุนยังกังวลผลกระทบจากการเลื่อนส่งงบการเงินปี 65 ของ STARK ส่งผลให้เกิดแรงกดดันในหุ้นกลุ่มธนาคาร ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 1,560-1,575 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
• จำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น : AOT BAFS AAV BA MINT CENTEL ERW
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL COM7 CPALL
• โอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ระบาด : BCH CHG VIBHA EKH
หุ้นรายงานพิเศษ
YONG "บริษัทคาดรายได้ปี 66 เติบโต 15%YoY"
•ผลการดำเนินงานปี 65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 101 ลบ. +46%YoY มาจากรายได้รวมเท่ากับ 1,014 ลบ. +17%YoY สาเหตุหลัก มาจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์ และงานโครงการในปริมาณสูง ทั้งงานภาครัฐ และเอกชน บริษัทมี %GPM ที่ 29.6% หดตัวเล็กน้อย จากระดับ 30.0% ในปี 64 เนื่องจากราคาวัตถุดิบ และราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
•บริษัทคาดรายได้ปี 66 เติบโต 15%YoY หลังได้เงินระดมทุนจากการ IPO พร้อมทั้งการสร้างโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จที่บางใหญ่และเปิดดำเนินการแล้ว เมื่อ 17 ก.พ. 66 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต การก่อสร้างโรงงานที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม ส่วนของแพลนท์คอนกรีต ได้เปิดผลิตขายแล้ว และส่วนของผลิตภัณฑ์คอนกรีต จะเริ่มการผลิต ประมาณ ต้น 2Q66 ขณะที่แผนการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปแห่งใหม่ที่จ.ระยอง คาดเริ่มก่อสร้างในช่วง 4Q66 เพื่อรองรับดีมานด์การเติบโตของ EEC โดย ณ วันที่ 30 มี.ค. 66 บริษัทฯมี Backlog ราว 648 ลบ.
•ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานปี 66 ของบริษัท จากสถานการณ์ต่างๆ ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้กลุ่มลูกค้าของบริษัทมียอดสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น เช่น ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาฯ กลับมาขยายโครงการมากขึ้น ทำให้ดีมานด์สินค้า เสาเข็ม รั้วสาเร็จรูป มีวอลุ่มขายมากขึ้น รวมถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้รับเหมา และภาครัฐ โดยปัจจุบัน หุ้นซื้อ-ขาย ที่ P/E ราว 25x เทียบกับหุ้นที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน ได้แก่ STECH 16x, CPANEL 25x, CCP 43x โดย YTD ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นราว 78%
หุ้นมีข่าว
(+) HUMAN (Bloomberg consensus 14.00 บาท) ตอกย้ำสถานะเป็นผู้นำ HR อาเซียน มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตดี ความต้องการโซลูชั่น HR ยังดีต่อเนื่อง ทั้งลูกค้ารายใหญ่และรายเล็ก ระบุ Workplaze จะเป็นโซลูชั่นชั้นนำระดับโลก มองปีนี้รายได้โต 30% เชื่อปีหน้าผลงานโตก้าวกระโดด เจาะตลาดฟิลิปปินส์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
(+) STPI (Bloomberg consensus - บาท) ทุ่ม 1.53 พันล้านบาท ร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมในลาว ขนาดกำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ แตกไลน์ธุรกิจ-อัพฐานโกยเงิน เริ่มผลิตปี 2568 พร้อมวางหมากปีนี้รายได้เหนือ 3 พันล้านบาท เดินหน้าสอยโครงการใหม่ต่อเนื่อง อัพ Backlog เพิ่ม จากเดิมราว 4.3 พันล้านบาท กินยาวไปอีก 3 ปี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) HL (Bloomberg consensus 20.00 บาท) หลังสงกรานต์ตัวเลขผู้ป่วยโควิดพุ่ง หนุนยอดขายวิตามิน-ชุดตรวจ ATK ทะยาน ด้านผู้บริหาร "ธัชพล ชลวัฒนสกุล" เดินเกมผุดสาขาโกยเงิน คาดครึ่งปีแรก 2566 เปิดสาขาเพิ่มไม่น้อยกว่า 7 สาขา จากทั้งปี 2566 ตั้งเป้าเปิด 14 สาขา เน้นเจาะตลาดแมส ส่งแบรนด์ Pharmax - iCare อัพยอด (ที่มา ทันหุ้น)
(+) STANLY (Bloomberg consensus 220.00 บาท) พัฒนาไฟรุ่นใหม่ เจาะตลาดอุปกรณ์แต่งรถ มั่นใจรายได้รวมทั้งปี 2566/2567 เติบโตแข็งแกร่งสอดคล้องอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย หลังสถานการณ์ขาดแคลนชิปคลี่คลาย ค่ายรถเร่งกำลังผลิตเพื่อส่งมอบ Back Order ได้เร็วขึ้น ทั้งยังเจาะตลาดส่งออกรถเครื่องสันดาปใหม่ ควบคู่พัฒนายานยนต์ EV หนุนกำลังการผลิตรถในไทยปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)