วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (21 เม.ย. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย และสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับลด หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
-/+ นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ประสบภาวะชะงักงันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการจ้างงานชะลอตัว ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ หลังเกิดวิกฤตภาคธนาคาร
+/- รัฐมนตรีกระทรวงปิโตรเลียมของปากีสถาน เปิดเผยว่าปากีสถานจะซื้อน้ำมันดิบลดราคาจากรัสเซียเป็นครั้งแรก ภายใต้ข้อตกลงใหม่ที่ทำขึ้นระหว่างรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ โดยน้ำมันดิบล็อตแรกจะมาถึงท่าเรือการาจีในเดือน พ.ค. 66 ทั้งนี้ ปากีสถานจะสั่งซื้อแต่น้ำมันดิบเท่านั้น และคาดว่าจะนำเข้าประมาณ 100,000 บาร์เรลต่อวัน
- ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว ปรับเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 245,000 ราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 223.5 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกัน อุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 8.5 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดีเซลในฟูไจราห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปรับเพิ่มขึ้น 15% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 22.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดีเซลของสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางต้นทุนค่าขนส่งที่อยู่ในระดับสูง